bloodshed ใน ภาษาอังกฤษ หมายถึงอะไร

ความหมายของคำว่า bloodshed ใน ภาษาอังกฤษ คืออะไร บทความอธิบายความหมายแบบเต็ม การออกเสียงพร้อมกับตัวอย่างสองภาษาและคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีใช้ bloodshed ใน ภาษาอังกฤษ

คำว่า bloodshed ใน ภาษาอังกฤษ หมายถึง การฆ่าฟัน, การนองเลือด, การฆ่าฟันอย่างบ้าคลั่ง หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม โปรดดูรายละเอียดด้านล่าง

ฟังการออกเสียง

ความหมายของคำว่า bloodshed

การฆ่าฟัน

noun

Cursed is the one who holds back his sword from bloodshed!
และ คน ที่ ไม่ ยอม ใช้ ดาบ ฆ่า ฟัน จะ ถูก สาป แช่ง

การนองเลือด

noun

That won't happen without an awful lot of bloodshed.
สิ่งนั้นจะไม่มีทางเกิดขึ้นได้ โดยไม่มีการนองเลือด

การฆ่าฟันอย่างบ้าคลั่ง

noun

ดูตัวอย่างเพิ่มเติม

However, bloodshed is averted when it is explained that the altar is not for sacrifice but only to serve as “a witness between us [Israel to the east and to the west of the Jordan] that Jehovah is the true God.” —22:34.
อย่าง ไร ก็ ตาม ไม่ เกิด การ นอง เลือด เมื่อ มี การ อธิบาย ว่า แท่น นั้น ไม่ ใช่ สําหรับ การ เผา บูชา แต่ เพียง เพื่อ “เป็น พยาน ระหว่าง เรา [ชาว ยิศราเอล ฝั่ง ตะวัน ออก กับ ฝั่ง ตะวัน ตก ของ ยาระเดน] ว่า พระ ยะโฮวา เป็น พระเจ้า เที่ยง แท้.”—22:34, ล. ม.
Its capital was Nineveh, so infamous for cruel treatment of captives that it was called “the city of bloodshed.”
เมือง หลวง ของ ชาติ นั้น คือ เมือง นีนะเว มี ชื่อ ฉาวโฉ่ ใน เรื่อง การ ปฏิบัติ อย่าง ทารุณ ต่อ พวก เชลย จน เมือง นั้น ได้ ฉายา ว่า “นคร อัน แปดเปื้อน ไป ด้วย โลหิต.”
The book Clinging to a Myth commented on De Chardin’s optimism: “De Chardin must have been quite oblivious of the history of human bloodshed and of racist systems such as apartheid in South Africa.
หนังสือ การ ยึด มั่น กับ เทพ นิยาย (ภาษา อังกฤษ) ให้ ความ เห็น เกี่ยว กับ การ มอง ใน แง่ ดี ของ เทยาร์ เดอ ชาร์แดง ดัง นี้: “เดอ ชาร์แดง คง ต้อง ลืม ประวัติศาสตร์ การ นอง เลือด ของ มนุษย์ และ ระบบ เหยียด ผิว อย่าง เช่น การ แบ่ง ผิว ใน แอฟริกา ใต้ ไป แล้ว.
A week of bloodshed ensued.
สิ่ง ที่ ตาม มา คือ สัปดาห์ แห่ง การ นอง เลือด.
Any joy and happiness would be short-lived if the dead came back to an earth that was filled with strife, bloodshed, pollution, and violence—as is the situation today.
ความ ยินดี และ ความ สุข ใด ๆ คง จะ มี อยู่ ช่วง สั้น ๆ ถ้า คน ตาย กลับ คืน สู่ แผ่นดิน โลก ที่ เต็ม ด้วย การ ต่อ สู้ กัน, การ นอง เลือด, ภาวะ มลพิษ, และ ความ รุนแรง—เช่น เดียว กับ สภาพการณ์ ที่ เป็น ใน ทุก วัน นี้.
Satan has, in fact, built up a world empire of false religion, identified by rage, hatred, and almost endless bloodshed.
ที่ จริง ซาตาน ได้ สร้าง จักรวรรดิ โลก แห่ง ศาสนา เท็จ ขึ้น ซึ่ง ถูก ระบุ โดย ความ โกรธ, ความ เกลียด ชัง, และ การ นอง เลือด แทบ จะ ไม่ รู้ จัก จบ.
Even now, in the midst of a world saturated with violence, the Bible has helped many individuals of all backgrounds to reject the use of violence and to overcome the bitter resentment that builds when people live through decades of wanton bloodshed.
แม้ แต่ ตอน นี้ ใน โลก ที่ เต็ม ไป ด้วย ความ รุนแรง คัมภีร์ ไบเบิล ได้ ช่วย ผู้ คน ที่ มี ภูมิหลัง หลาก หลาย ให้ ปฏิเสธ ความ รุนแรง และ เอา ชนะ ความ โกรธ แค้น ที่ เพิ่ม ขึ้น เรื่อย ๆ เมื่อ พวก เขา ต้อง อยู่ ท่ามกลาง การ นอง เลือด มา นาน หลาย สิบ ปี.
He himself explains: “With bloodshed your very hands have become filled.”
พระองค์ ทรง อธิบาย เอง ดัง นี้: “ด้วย มือ ของ พวก เจ้า เปรอะ เปื้อน ไป ด้วย โลหิต.”
The responsibility for bloodshed by the clergy has been both direct, in the Crusades, other religious wars, inquisitions, and persecutions, and indirect, in condoning wars in which members of the churches killed their fellowman in other lands.
ความ รับผิดชอบ ต่อ การ ทํา ให้ โลหิต ตก ของ ผู้ นํา ศาสนา นั้น มี ทั้ง โดย ตรง เช่น สงคราม ครูเสด สงคราม อื่น ๆ ใน นาม ศาสนา การ ตั้ง ศาล ศาสนา และ การ ข่มเหง และ โดย ทาง อ้อม ด้วย การ ไม่ เอา โทษ หรือ ไม่ ถือ สา เมื่อ ศาสนิกชน ใน ประเทศ หนึ่ง ฆ่า เพื่อน มนุษย์ อีก ชาติ หนึ่ง.
I expected rage, uh... bloodshed.
ผมคิดว่า... คงจะโมโห มาก
(Nahum 2:2, 12, 13) “Woe to the city of bloodshed” —Nineveh.
(นาฮูม 2:2, 12, 13) “น่า เวทนา นคร อัน แปดเปื้อน ไป ด้วย โลหิต”—เมือง นีเนเวห์.
How would a lone servant of Jehovah fare in vast Nineveh, which would come to be called “the city of bloodshed”? —Nahum 3:1, 7.
ผู้ รับใช้ ของ พระเจ้า จะ เป็น อย่าง ไร เมื่อ ต้อง ทํา งาน เพียง ลําพัง ใน นีเนเวห์ อัน กว้าง ใหญ่ ซึ่ง ต่อ มา จะ ได้ ชื่อ ว่า “นคร อัน แปดเปื้อน ไป ด้วย โลหิต.”—นาฮูม 3:1, 7.
We cannot turn a blind eye to bloodshed.
เราจะทําเป็นหลับหูหลับตาการนองเลือดนี้ไม่ได้
19 Jehovah lays the blame for all this bloodshed at the feet of Babylon the Great.
19 พระ ยะโฮวา ทรง ถือ ว่า บาบิโลน ใหญ่ ต้อง รับผิดชอบ ต่อ การ นอง เลือด ทั้ง ปวง นั้น.
Would our consuming a diet of gratuitous bloodshed be pleasing to Jehovah, of whom it is said: “Anyone loving violence His soul certainly hates”?
การ ที่ เรา เฝ้า ติด ตาม ชม เรื่อง นอง เลือด เป็น ว่า เล่น จะ ทํา ให้ พระ ยะโฮวา พอ พระทัย ไหม ซึ่ง มี การ พูด ถึง พระองค์ ว่า “คน ใด ที่ รัก ความ รุนแรง นั้น จิตวิญญาณ ของ พระองค์ ทรง เกลียด ชัง อย่าง แน่นอน”?
4 How, though, did the Israelites handle cases of accidental bloodshed?
4 แต่ ถ้า ชาว อิสราเอล ทํา ให้ ใคร บาง คน ตาย โดย ไม่ เจตนา ล่ะ?
Almost a century of violence, bloodshed, and hatred seems to have left mankind further than ever from a political solution to their problems.
เกือบ หนึ่ง ศตวรรษ ที่ มี แต่ ความ รุนแรง, การ นอง เลือด, และ ความ เกลียด ชัง ดู เหมือน ได้ ทํา ให้ มนุษยชาติ อยู่ ห่าง ไกล จาก วิธี แก้ ทาง ด้าน การ เมือง สําหรับ ปัญหา ของ พวก เขา ยิ่ง กว่า แต่ ก่อน.
Moroni refuses to exchange prisoners—The Lamanite guards are enticed to become drunk, and the Nephite prisoners are freed—The city of Gid is taken without bloodshed.
โมโรไนปฏิเสธที่จะแลกเปลี่ยนเชลย—พวกยามชาวเลมันถูกลวงให้เมาสุรา, และเชลยชาวนีไฟได้รับอิสรภาพ—เมืองแห่งกิดถูกยึดโดยไม่มีการนองเลือด.
Manasseh, king of Judah; his bloodshed (1-18)
กษัตริย์ มนัสเสห์ แห่ง ยูดาห์ เขา ฆ่า คน มาก มาย (1-18)
They like their bloodshed.
พวกเขาชอบการหลั่งเลือด
To me this had been just another example of the churches’ involvement with war and bloodshed.
สําหรับ ผม แล้ว นี่ เป็น อีก ตัว อย่าง หนึ่ง ที่ แสดง ให้ เห็น ถึง การ ที่ คริสต์ จักร ต่าง ๆ เข้า ยุ่ง เกี่ยว ใน การ สงคราม และ การ ทํา ให้ โลหิต ตก.
How does the Bible address the underlying cause of much bloodshed?
คัมภีร์ ไบเบิล ระบุ ว่า สาเหตุ ส่วน ใหญ่ ของ การ ฆ่า คน คือ อะไร?
3:1) He judged Christendom, the most reprehensible part of “Babylon the Great,” finding her guilty of bloodshed and of spiritual adultery with the political system of this world. —Rev.
3:1, ฉบับ R73) พระองค์ ทรง พิพากษา คริสต์ ศาสนจักร ซึ่ง เป็น ส่วน ที่ น่า ตําหนิ ที่ สุด ของ “บาบิโลน ใหญ่” และ พบ ว่า มี ความ ผิด ฐาน ทํา ให้ โลหิต ตก และ ผิด ประเวณี ฝ่าย วิญญาณ กับ ระบบ การ เมือง ของ โลก นี้.—วิ.
It has caused, and is still causing, hatred and bloodshed.
ศาสนา เท็จ เคย ก่อ เหตุ ให้ คน เกลียด กัน และ ทํา ให้ โลหิต ตก เวลา นี้ ก็ ยัง เป็น อยู่ อย่าง นั้น.
“In the complex web of causes leading to social and political instability, bloodshed and war,” observes the book Greenwar—Environment and Conflict, “environmental degradation is playing an increasing role.”
หนังสือ ที่ ชื่อ สงคราม เขียว—สิ่ง แวด ล้อม และ ความ ขัด แย้ง (ภาษา อังกฤษ) ตั้ง ข้อ สังเกต ว่า “ใน โยง ใย ที่ ซับซ้อนของ สาเหตุ ซึ่ง นํา ไป สู่ ความ ไร้ เสถียรภาพ ทาง สังคม และ การ เมือง, การ นอง เลือด, และ สงคราม นั้น ความ เสื่อม โทรม ของ สิ่ง แวด ล้อม กําลัง มี บทบาท เพิ่ม ขึ้น.”

มาเรียนกันเถอะ ภาษาอังกฤษ

ตอนนี้เมื่อคุณรู้ความหมายของ bloodshed ใน ภาษาอังกฤษ มากขึ้นแล้ว คุณจะได้เรียนรู้วิธีใช้คำเหล่านี้ผ่านตัวอย่างที่เลือกไว้และวิธี อ่านแล้วอย่าลืมเรียนรู้คำที่เกี่ยวข้องที่เราแนะนำ เว็บไซต์ของเรามีการปรับปรุงคำศัพท์ใหม่ๆ และตัวอย่างใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา เพื่อให้คุณสามารถค้นหาความหมายของคำอื่นๆ ที่คุณไม่ทราบใน ภาษาอังกฤษ

อัปเดตคำของ ภาษาอังกฤษ

คุณรู้จัก ภาษาอังกฤษ ไหม

ภาษาอังกฤษมาจากชนเผ่าดั้งเดิมที่อพยพไปยังอังกฤษและมีวิวัฒนาการมาเป็นเวลากว่า 1,400 ปี ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่พูดมากเป็นอันดับสามของโลก รองจากจีนและสเปน เป็นภาษาที่สองที่มีการเรียนรู้มากที่สุด และภาษาราชการของเกือบ 60 ประเทศอธิปไตย ภาษานี้มีจำนวนผู้พูดเป็นภาษาที่สองและภาษาต่างประเทศมากกว่าเจ้าของภาษา ภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการร่วมของสหประชาชาติ สหภาพยุโรป และภาษาต่างประเทศอื่น ๆ อีกมากมาย และองค์กรระดับภูมิภาค ปัจจุบัน ผู้พูดภาษาอังกฤษทั่วโลกสามารถสื่อสารกันได้อย่างคล่องตัว