cuneiform ใน ภาษาอังกฤษ หมายถึงอะไร

ความหมายของคำว่า cuneiform ใน ภาษาอังกฤษ คืออะไร บทความอธิบายความหมายแบบเต็ม การออกเสียงพร้อมกับตัวอย่างสองภาษาและคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีใช้ cuneiform ใน ภาษาอังกฤษ

คำว่า cuneiform ใน ภาษาอังกฤษ หมายถึง อักษรรูปลิ่ม, รูปลิ่ม หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม โปรดดูรายละเอียดด้านล่าง

ฟังการออกเสียง

ความหมายของคำว่า cuneiform

อักษรรูปลิ่ม

adjective (old writing system used for many languages, including Akkadian and Hittite)

How does Ptolemy’s list compare with that cuneiform record?
รายชื่อของปโตเลมีเป็นอย่างไรเมื่อเทียบกับบันทึกในเอกสารอักษรรูปลิ่ม?

รูปลิ่ม

adjective

How does Ptolemy’s list compare with that cuneiform record?
รายชื่อของปโตเลมีเป็นอย่างไรเมื่อเทียบกับบันทึกในเอกสารอักษรรูปลิ่ม?

ดูตัวอย่างเพิ่มเติม

As the need for record-keeping increased, cuneiform writing was developed.
เมื่อ มี ความ จําเป็น มาก ขึ้น ใน การ เก็บ บันทึก จึง ได้ พัฒนาการ เขียน โดย ใช้ อักษร รูป ลิ่ม.
The cuneiform inscription on one cylinder included a prayer by Babylonian King Nabonidus for “Bel-sar-ussur, my eldest son.”
คํา จารึก อักษร รูป ลิ่ม บน กระบอก ดิน เหนียว แท่ง หนึ่ง มี คํา สวด ภาวนา ของ กษัตริย์ นะโบไนดัส เพื่อ “เบล-ซาร์-อุสเซอร์ [อีก ชื่อ หนึ่ง ของ เบละซาซัร] บุตร ชาย หัวปี ของ ข้า.”
More than 99 percent of cuneiform texts that have been found were written on clay tablets.
บท จารึก อักษร รูป ลิ่ม ที่ พบ มาก กว่า 99 เปอร์เซ็นต์ เขียน บน แผ่นดิน เหนียว.
Archaeologists have unearthed cuneiform texts that discuss people and events mentioned in the Scriptures.
นัก โบราณคดี ได้ ขุด พบ บท จารึก อักษร รูป ลิ่ม ซึ่ง มี เนื้อ ความ บอก เกี่ยว กับ ผู้ คน และ เหตุ การณ์ ที่ พระ คัมภีร์ กล่าว ถึง.
According to one estimate, “only about 1/10 of the extant cuneiform texts have been read even once in modern times.”
ตาม ที่ เคย มี การ ประมาณ ไว้ “ผู้ คง แก่ เรียน ใน สมัย ปัจจุบัน ได้ อ่าน บท จารึก อักษร รูป ลิ่ม ไป แล้ว (แค่ อย่าง น้อย แผ่น ละ ครั้ง) เพียง 1 ใน 10 ของ บท จารึก ที่ มี อยู่.”
Cuneiform tablets cite an alliance between this people and the Mannai in a revolt against Assyria in the seventh century B.C.E.
แผ่น จารึก อักษร รูป ลิ่ม หลาย แผ่น อ้าง ถึง การ ที่ ชาว ซิเทีย ร่วม เป็น พันธมิตร กับ ชาว มาน ไน (มินนิ) ใน ระหว่าง การ กบฏ ต่อ อัสซีเรีย ใน ศตวรรษ ที่ เจ็ด ก่อน สากล ศักราช.
Literally millions of cuneiform texts have come to light over the last two centuries, and they deal with a huge range of subject matter.
มี การ ขุด ค้น พบ คํา จารึก ที่ เป็น อักษร รูป ลิ่ม หลาย ล้าน ชิ้น ตลอด สอง ศตวรรษ ที่ ผ่าน มา และ คํา จารึก ได้ กล่าว ถึง หลาย เรื่อง.
Already, cuneiform tablets have revealed that Cyrus the Persian did not assume the title “King of Babylon” immediately after the conquest.
แผ่นดิน เหนียว อักษร รูป ลิ่ม เปิด เผย อยู่ แล้ว ว่า ไซรัส ชาว เปอร์เซีย ไม่ ได้ รับ ตําแหน่ง “กษัตริย์ แห่ง บาบูโลน” ทันที หลัง การ พิชิต.
For instance, he states: “A fragmentary cuneiform text apparently refers to some mental disorder on Nebuchadnezzar’s part, and perhaps to his neglecting and leaving Babylon.”
เพื่อ เป็น ตัว อย่าง เขา กล่าว ว่า “ชิ้น ส่วน ของ ข้อ ความ อักษร รูป ลิ่ม กล่าว ถึง ความ ผิด ปกติ บาง อย่าง ทาง จิตใจ ใน ส่วน ของ นะบูคัดเนซัร และ อาจ กล่าว ถึง การ ที่ ท่าน ปล่อยปละ ละเลย และ จาก บาบูโลน ไป.”
People living in Mesopotamia, such as the Sumerians and the Babylonians, used cuneiform.
ผู้ คน ที่ อยู่ ใน เมโสโปเตเมีย เช่น ชาว ซูเมอร์ และ ชาว บาบิโลน ใช้ อักษร รูป ลิ่ม.
The dictionary thus became a compendium of quotations from and translations of original cuneiform passages in which the defined words appear.
พจนานุกรม นี้ จึง กลาย มา เป็น แหล่ง ข้อมูล อ้างอิง และ เป็น งาน แปล ของ ข้อ ความ อักษร รูป ลิ่ม ดั้งเดิม ที่ มี คํา นั้น ปรากฏ อยู่.
The same reference work says: “In Mesopotamia, cuneiform lists mention the creature [the camel] and several seals depict it, indicating that the animal may have reached Mesopotamia by the beginning of the second millennium,” that is, by Abraham’s time.
หนังสือ อ้างอิง เล่ม เดียว กัน นั้น กล่าว ว่า “ใน เมโสโปเตเมีย มี บันทึก อักษร รูป ลิ่ม หลาย รายการ ที่ กล่าว ถึง อูฐ และ ตรา ประทับ ที่ เป็น ภาพ อูฐ ซึ่ง แสดง ว่า สัตว์ ชนิด นี้ อาจ มา อยู่ ใน เมโสโปเตเมีย เมื่อ ประมาณ 4,000 ปี ที่ แล้ว” นั่น คือ ใน สมัย ของ อับราฮาม.
During the first millennium B.C.E., cuneiform existed side by side with alphabetic writing.
ใน ช่วง สหัสวรรษ แรก ก่อน สากล ศักราช มี การ ใช้ อักษร รูป ลิ่ม ควบ คู่ กับ การ เขียน โดย ใช้ พยัญชนะ.
Standing in complete contrast with works of fine art is an intriguing collection of over a hundred Babylonian and Sumerian clay tablets with ancient cuneiform writing.
ของ สะสม ที่ น่า ทึ่ง ซึ่ง แตกต่าง กัน อย่าง สิ้นเชิง กับ งาน วิจิตร ศิลป์ คือ แผ่นดิน เหนียว มาก กว่า ร้อย ชิ้น ที่ จารึก อักษร รูป ลิ่ม โบราณ ของ บาบิโลน และ ซูเมอเรียน.
Soon thereafter Assyrian cuneiform writings were decoded as well.
ต่อ มา ไม่ นาน นัก ตัว อักษร รูป ลิ่ม ของ ชาว อัสสิเรีย ก็ มี การ ถอด ความ เช่น กัน.
For some, the cuneiform sign interpreted as ja indicates just one of the many deities in the Eblaite pantheon, while a number of other specialists explain it as no more than a grammatical sign.
สําหรับ ผู้ คง แก่ เรียน บาง คน เครื่องหมาย รูป ลิ่ม ที่ มี การ แปล ว่า ยา เพียง แต่ บ่ง ชี้ ถึง พระองค์ หนึ่ง ใน บรรดา พระ ที่ ชาว เอบลา ยอม รับ นับถือ ใน ขณะ ที่ ผู้ เชี่ยวชาญ อีก หลาย คน อธิบาย ว่า สัญลักษณ์ ดัง กล่าว เป็น เพียง เครื่องหมาย ทาง ไวยากรณ์ เท่า นั้น.
In any case, the cuneiform inscriptions on several clay cylinders discovered in southern Iraq during the 19th century identify Belshazzar as the eldest son of Nabonidus, king of Babylon.
ไม่ ว่า จะ กรณี ใด บท บันทึก อักษร รูป ลิ่ม บน กระบอก ดิน เหนียว หลาย ชิ้น ที่ ค้น พบ ทาง ตอน ใต้ ของ อิรัก ระหว่าง ศตวรรษ ที่ 19 บ่ง ชี้ ว่า เบละซาซัร เป็น ราชบุตร หัวปี ของ นะโบไนดัส กษัตริย์ บาบูโลน.
A clay tablet with cuneiform writing, from Mesopotamia, third millennium B.C.E.
แผ่น จารึก ดิน เหนียว ที่ เขียน ด้วย อักษร รูป ลิ่ม จาก เมโสโปเตเมีย ใน ศตวรรษ ที่ สาม ก่อน สากล ศักราช
Cuneiform tablets that contain descriptions of the positions of the sun, moon, planets, and stars, coupled with such historical information as the regnal year of a particular king.
บันทึก ทาง ดาราศาสตร์ คือ เอกสาร อักษร รูป ลิ่ม ที่ บอก ตําแหน่ง ของ ดวง อาทิตย์ ดวง จันทร์ ดาว เคราะห์ และ ดาว ฤกษ์ ต่าง ๆ รวม ถึง ข้อมูล ทาง ประวัติศาสตร์ เช่น ปี แห่ง การ ครอง ราชย์ ของ ผู้ ที่ ปกครอง ใน ช่วง เวลา นั้น.
This cuneiform tablet has the name Tattannu written on one of its edges
จารึก อักษร รูป ลิ่ม นี้ มี ชื่อ ทัทธันนู อยู่ บน ขอบ ด้าน หนึ่ง
How does Ptolemy’s list compare with that cuneiform record?
ราย ชื่อ ของ ปโตเลมี เป็น อย่าง ไร เมื่อ เทียบ กับ บันทึก ใน เอกสาร อักษร รูป ลิ่ม?
(Pages 72-76) Though the cuneiform sign for the moon is clear and unambiguous, some of the signs for the names of the planets and their positions are unclear.
ถึง แม้ สัญลักษณ์ ของ ดวง จันทร์ บน แผ่นดิน เหนียว จะ เห็น ได้ อย่าง ชัดเจน แต่ สัญลักษณ์ อื่น ๆ ซึ่ง เป็น ชื่อ ของ ดาว เคราะห์ และ ตําแหน่ง ของ ดาว เหล่า นั้น กลับ เห็น ได้ ไม่ ชัด.
However, cuneiform documents from the Persian period, including the Cyrus Cylinder, provide convincing evidence that the Bible record is accurate.
อย่าง ไร ก็ ตาม เอกสาร อักษร รูป ลิ่ม จาก สมัย ที่ เปอร์เซีย เป็น มหาอํานาจ รวม ทั้ง กระบอก ดิน เหนียว ของ ไซรัส ด้วย ให้ พยาน หลักฐาน ที่ ทํา ให้ เชื่อ มั่น ว่า ประวัติ บันทึก ใน คัมภีร์ ไบเบิล ถูก ต้อง แม่นยํา.
But the Assyrians and Babylonians eventually abandoned cuneiform in favor of alphabetic script.
แต่ ใน ที่ สุด ชาว อัสซีเรีย และ ชาว บาบิโลน ก็ เลิก ใช้ อักษร รูป ลิ่ม และ เปลี่ยน มา เขียน โดย ใช้ พยัญชนะ.
Moreover, the hundreds of thousands of cuneiform tablets unearthed in the Middle East present an imperfect history with many gaps.
ยิ่ง กว่า นั้น แผ่น จารึก อักษร รูป ลิ่ม หลาย แสน ชิ้น ที่ ขุด พบ ใน ตะวัน ออก กลาง เสนอ ประวัติ ที่ ไม่ ครบ ถ้วน พร้อม กับ ช่อง ว่าง หลาย แห่ง.

มาเรียนกันเถอะ ภาษาอังกฤษ

ตอนนี้เมื่อคุณรู้ความหมายของ cuneiform ใน ภาษาอังกฤษ มากขึ้นแล้ว คุณจะได้เรียนรู้วิธีใช้คำเหล่านี้ผ่านตัวอย่างที่เลือกไว้และวิธี อ่านแล้วอย่าลืมเรียนรู้คำที่เกี่ยวข้องที่เราแนะนำ เว็บไซต์ของเรามีการปรับปรุงคำศัพท์ใหม่ๆ และตัวอย่างใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา เพื่อให้คุณสามารถค้นหาความหมายของคำอื่นๆ ที่คุณไม่ทราบใน ภาษาอังกฤษ

อัปเดตคำของ ภาษาอังกฤษ

คุณรู้จัก ภาษาอังกฤษ ไหม

ภาษาอังกฤษมาจากชนเผ่าดั้งเดิมที่อพยพไปยังอังกฤษและมีวิวัฒนาการมาเป็นเวลากว่า 1,400 ปี ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่พูดมากเป็นอันดับสามของโลก รองจากจีนและสเปน เป็นภาษาที่สองที่มีการเรียนรู้มากที่สุด และภาษาราชการของเกือบ 60 ประเทศอธิปไตย ภาษานี้มีจำนวนผู้พูดเป็นภาษาที่สองและภาษาต่างประเทศมากกว่าเจ้าของภาษา ภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการร่วมของสหประชาชาติ สหภาพยุโรป และภาษาต่างประเทศอื่น ๆ อีกมากมาย และองค์กรระดับภูมิภาค ปัจจุบัน ผู้พูดภาษาอังกฤษทั่วโลกสามารถสื่อสารกันได้อย่างคล่องตัว