leper ใน ภาษาอังกฤษ หมายถึงอะไร

ความหมายของคำว่า leper ใน ภาษาอังกฤษ คืออะไร บทความอธิบายความหมายแบบเต็ม การออกเสียงพร้อมกับตัวอย่างสองภาษาและคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีใช้ leper ใน ภาษาอังกฤษ

คำว่า leper ใน ภาษาอังกฤษ หมายถึง คนเป็นโรคเรื้อน, ผู้ป่วยโรคเรื้อน หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม โปรดดูรายละเอียดด้านล่าง

ฟังการออกเสียง

ความหมายของคำว่า leper

คนเป็นโรคเรื้อน

noun

Invite students to consider again what the leper’s life was like before and after he was healed.
เชื้อเชิญให้นักเรียนพิจารณาอีกครั้งว่าชีวิตของคนโรคเรื้อนก่อนและหลังเขาหายจากโรคเป็นอย่างไร

ผู้ป่วยโรคเรื้อน

noun

ดูตัวอย่างเพิ่มเติม

Luke 17:11–19 (Jesus Christ heals ten lepers, and one returns to thank Him)
ลูกา 17:11–19 (พระเยซูคริสต์ทรงรักษาคนโรคเรื้อนสิบคน และหนึ่งคนกลับมาขอบพระทัยพระองค์)
How were lepers viewed in ancient Israel?
คน โรค เรื้อน ถูก มอง อย่าง ไร ใน อิสราเอล โบราณ?
to warn anyone approaching them (see Bible Dictionary, “Leper”).
เพื่อเตือนใครก็ตามที่เข้ามาใกล้พวกเขา (ดู Bible Dictionary, “Leper”)
Mt 8:1-3 —Jesus demonstrated exceptional compassion for a leper (“he touched him,” “I want to” study notes on Mt 8:3, nwtsty)
มธ 8:1-3—พระ เยซู แสดง ความ สงสาร เป็น พิเศษ ต่อ คน โรค เรื้อน (“พระ เยซู ก็ ยื่น มือ สัมผัส ตัว เขา” “ผม อยาก ช่วย” ข้อมูล สําหรับ ศึกษา มธ 8:3, nwtsty-E)
(Luke 8:2; 19:1-10) The blind and the lepers were helped when they came to Jesus, the one preaching the good news.
(ลูกา 8:2; 19:1-10) คน ตา บอด และ คน ที่ เป็น โรค เรื้อน ได้ รับ การ ช่วยเหลือ เมื่อ เขา มา หา พระ เยซู ผู้ ทรง ประกาศ ข่าว ดี.
Why, he has walked on water, calmed the winds, quieted stormy seas, miraculously fed thousands on a few loaves and fishes, cured the sick, made the lame walk, opened the eyes of the blind, cured lepers, and even raised the dead.
ก็ ใน เมื่อ พระองค์ เคย ทรง ดําเนิน บน น้ํา ทํา ให้ ลม สงบ ห้าม พายุ ทรง ทํา การ อัศจรรย์ เลี้ยง อาหาร หลาย พัน คน ด้วย ขนมปัง ไม่ กี่ อัน กับ ปลา สอง สาม ตัว ทรง รักษา คน ป่วย ให้ หาย ทํา ให้ คน ง่อย เดิน ได้ คน ตา บอด มอง เห็น ได้ รักษา คน โรค เรื้อน และ กระทั่ง ทรง ปลุก คน ตาย ฟื้น คืน ชีพ.
What about the quarantine of lepers or those with other diseases?
แล้ว การ กัก ตัว ผู้ ป่วย ที่ เป็น โรค เรื้อน หรือ โรค ติด ต่อ อื่น ๆ เป็น วิธี ที่ ได้ ผล ไหม?
1 When Jesus healed ten lepers, only one of them returned to express gratitude.
1 เมื่อ พระ เยซู ทรง รักษา คน โรค เรื้อน สิบ คน มี คน เดียว เท่า นั้น ที่ กลับ มา ขอบพระคุณ พระองค์.
Like Marie, the nine lepers had a serious shortcoming—they did not show gratitude.
เช่น เดียว กับ มา รี คน โรค เรื้อน เก้า คน บกพร่อง อย่าง ร้ายแรง—พวก เขา ไม่ ได้ แสดง ความ สํานึก บุญคุณ.
To answer that question, consider an incident involving Jesus and some lepers.
เพื่อ ตอบ คํา ถาม นี้ ให้ เรา พิจารณา เหตุ การณ์ ที่ เกี่ยว ข้อง กับ พระ เยซู และ คน ที่ เป็น โรค เรื้อน บาง คน.
The lepers accepted his direction, and while on the way, they began to see and feel their restored health.
คน ที่ เป็น โรค เรื้อน ยอม รับ คํา สั่ง ของ พระองค์ และ ขณะ เดิน ทาง ไป พวก เขา เริ่ม เห็น และ รู้สึก ว่า สุขภาพ กลับ ดี ดัง เดิม.
Lepers, blind people reduced to begging, and others in need found Jesus ready and willing to help them.
คน โรค เรื้อน, คน ตา บอด ที่ ต้อง ขอ ทาน หา เลี้ยง ชีพ, และ คน อื่น ๆ ที่ จําเป็น ต้อง ได้ รับ ความ ช่วยเหลือ ต่าง ก็ พบ ว่า พระ เยซู ทรง อยู่ พร้อม และ เต็ม ใจ ช่วย พวก เขา.
Rabbinic rules stated that no one should come within four cubits (about six feet) (1.8 m) of a leper.
กฎ ของ พวก รับบี บอก ว่า คน เรา ไม่ ควร เข้า ใกล้ คน โรค เรื้อน ใน ระยะ ห่าง ประมาณ 1.8 เมตร.
Why do the ten lepers stand at a distance, and why does Jesus tell them to go to the priests?
ทําไม คน โรค เรื้อน 10 คน ไม่ เข้า มา ใกล้ พระ เยซู และ ทําไม ท่าน บอก ให้ พวก เขา ไป หา ปุโรหิต?
The Mosaic Law had provisions for quarantining lepers for health reasons, but there was no basis for unkindness.
พระ บัญญัติ ของ โมเซ ได้ กําหนด ไว้ ว่า ควร กัก บริเวณ คน ที่ เป็น โรค เรื้อน ด้วย เหตุ ผล ทาง สุขภาพ แต่ นั่น ไม่ เป็น เหตุ ที่ จะ ปฏิบัติ ต่อ คน เหล่า นั้น อย่าง ที่ ขาด ความ กรุณา.
Jesus says this because God’s Law authorizes the priests to pronounce as cured lepers who have recovered from their illness.
พระ เยซู ตรัส เช่น นี้ เพราะ กฎหมาย ของ พระเจ้า ให้ อํานาจ พวก ปุโรหิต ประกาศ ว่า คน เป็น โรค เรื้อน หาย สะอาด แล้ว.
* What happened as the lepers went?
* เกิดอะไรขึ้นเมื่อพวกคนโรคเรื้อนไป
I'm not calling you a leper.
ผมไม่ได้พูดมันเป็นสิ่งไม่ดี.ผมไม่ได้เรียกคุณว่าโรคเรื้อน.
A Leper Is Healed!
ชาย คน หนึ่ง หาย จาก โรค เรื้อน!
And if a leper saw another person coming, he had to call out: ‘I am a leper.
และ ถ้า คน โรค เรื้อน เห็น คน อื่น ๆ เข้า มา ใกล้ เขา จํา ต้อง ร้อง บอก ว่า ‘ข้าพเจ้า เป็น คน โรค เรื้อน.
The man is Simon, a former leper, who earlier had perhaps been healed by Jesus.
ชาย ผู้ นั้น คือ ซีโมน อดีต คน โรค เรื้อน ผู้ ซึ่ง อาจ ได้ รับ การ รักษา โดย พระ เยซู ก่อน หน้า นั้น ก็ ได้.
In the mid-1960’s, we accepted an invitation to show one of the Society’s films in a leper colony.
กลาง ทศวรรษ ปี 1960 เรา ได้ รับ เชิญ ให้ ไป ฉาย ภาพยนตร์ ของ สมาคม ฯ ใน นิคม คน โรค เรื้อน.
One minute, your best friend, the next, you're a leper,
แว่บนึงคุณอาจเป็นเพื่อนเค้า พริบตาเดียวคุณอาจไร้ค่า
Since I came to this camp, Jehovah has used me to help over 30 persons to dedication and baptism, all lepers.
ตั้ง แต่ ผม ได้ มา อยู่ ใน นิคม แห่ง นี้ พระ ยะโฮวา ทรง ใช้ ผม ช่วย ผู้ คน มาก กว่า 30 คน ถึง ขั้น อุทิศ ตัว และ รับ บัพติสมา, ทุก คน เป็น โรค เรื้อน.
Naaman, a Syrian army chief, was a leper.
นามาน แม่ทัพ ของ ซีเรีย เป็น โรค เรื้อน.

มาเรียนกันเถอะ ภาษาอังกฤษ

ตอนนี้เมื่อคุณรู้ความหมายของ leper ใน ภาษาอังกฤษ มากขึ้นแล้ว คุณจะได้เรียนรู้วิธีใช้คำเหล่านี้ผ่านตัวอย่างที่เลือกไว้และวิธี อ่านแล้วอย่าลืมเรียนรู้คำที่เกี่ยวข้องที่เราแนะนำ เว็บไซต์ของเรามีการปรับปรุงคำศัพท์ใหม่ๆ และตัวอย่างใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา เพื่อให้คุณสามารถค้นหาความหมายของคำอื่นๆ ที่คุณไม่ทราบใน ภาษาอังกฤษ

อัปเดตคำของ ภาษาอังกฤษ

คุณรู้จัก ภาษาอังกฤษ ไหม

ภาษาอังกฤษมาจากชนเผ่าดั้งเดิมที่อพยพไปยังอังกฤษและมีวิวัฒนาการมาเป็นเวลากว่า 1,400 ปี ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่พูดมากเป็นอันดับสามของโลก รองจากจีนและสเปน เป็นภาษาที่สองที่มีการเรียนรู้มากที่สุด และภาษาราชการของเกือบ 60 ประเทศอธิปไตย ภาษานี้มีจำนวนผู้พูดเป็นภาษาที่สองและภาษาต่างประเทศมากกว่าเจ้าของภาษา ภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการร่วมของสหประชาชาติ สหภาพยุโรป และภาษาต่างประเทศอื่น ๆ อีกมากมาย และองค์กรระดับภูมิภาค ปัจจุบัน ผู้พูดภาษาอังกฤษทั่วโลกสามารถสื่อสารกันได้อย่างคล่องตัว