covet ใน ภาษาอังกฤษ หมายถึงอะไร

ความหมายของคำว่า covet ใน ภาษาอังกฤษ คืออะไร บทความอธิบายความหมายแบบเต็ม การออกเสียงพร้อมกับตัวอย่างสองภาษาและคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีใช้ covet ใน ภาษาอังกฤษ

คำว่า covet ใน ภาษาอังกฤษ หมายถึง ปรารถนา, โลภโมโทสัน, ต้องการ หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม โปรดดูรายละเอียดด้านล่าง

ฟังการออกเสียง

ความหมายของคำว่า covet

ปรารถนา

verb

As such, they apparently did not covet the priesthood.
จึงดูเหมือนพวกเขาไม่ได้ปรารถนาตําแหน่งปุโรหิต.

โลภโมโทสัน

verb

ต้องการ

adjective verb

Once cloth was obtained, weavers painstakingly unraveled and removed the coveted colored threads, discarding the cloth that remained.
เมื่อได้ผ้ามาแล้ว ช่างทอผ้าก็จะดึงเส้นด้ายย้อมสีซึ่งเป็นที่ต้องการมากออกมาด้วยความระมัดระวัง และทิ้งผ้าส่วนที่เหลือไป.

ดูตัวอย่างเพิ่มเติม

A covetous person allows the object of his desire to dominate his thinking and actions to such an extent that it in essence becomes his god.
คน โลภ ปล่อย ให้ สิ่ง ที่ เขา ปรารถนา จะ ได้ ครอบ งํา ความ คิด และ การ กระทํา ของ ตน จน ถึง ขั้น ที่ โดย แท้ แล้ว สิ่ง นั้น กลาย เป็น พระเจ้า ที่ เขา บูชา.
You covet death that much?
นายปารถนาจะตายขนาดนั้นเลยหรอ? เฮ้!
You covet death that much?
นายต้องการความตายขนาดนั้น?
May our bond with the land be restored before someone else covets it.
จะถูกเรียกคืนก่อนที่ใครบางคนจะต้องการมัน
(James 1:15) In line with Jesus’ admonition, we should ‘keep our eyes open,’ not to observe others to see if they fit the description, but to examine ourselves to see what we have set our hearts on, so as to “guard against every sort of covetousness.”
(ยาโกโบ 1:15, ฉบับ แปล ใหม่) สอดคล้อง กับ คํา เตือน ของ พระ เยซู เรา ควร “ระวัง” ไม่ ใช่ เพื่อ ดู ว่า คน อื่น เป็น อย่าง คํา พรรณนา ดัง กล่าว หรือ ไม่ แต่ เพื่อ ตรวจ สอบ ว่า ความ ปรารถนา ใน หัวใจ ของ เรา เอง เป็น เช่น ไร เพื่อ จะ “รักษา ตัว ให้ พ้น จาก ความ โลภ ทุก ชนิด.”
4 True Christians strive to ‘deaden their body members as respects fornication, uncleanness, sexual appetite, hurtful desire, and covetousness,’ and they work at removing any old garment having a fabric of wrath, anger, badness, abusive speech, and obscene talk.
4 คริสเตียน แท้ พยายาม จะ ‘ประหาร อวัยวะ แห่ง ร่าง กาย ของ ตน ใน เรื่อง การ ล่วง ประเวณี การ โสโครก ราคะ ตัณหา ความ ปรารถนา ที่ ยัง ความ เสียหาย และ ความ ละโมบ’ และ พวก เขา พยายาม ถอด ทิ้ง เสื้อ ผ้า เก่า ซึ่ง ถัก ทอ ด้วย เส้นใย ที่ ประกอบ ด้วย โทโส ความ โกรธ เคือง ความ ชั่ว เลว ทราม คํา พูด หยาบคาย และ ลามก.
Moses had just reiterated what is commonly called the Ten Commandments, including the commands not to murder, not to commit adultery, not to steal, not to bear false testimony, and not to covet.
โมเซ เพิ่ง ได้ กล่าว ซ้ํา ข้อ ความ ที่ โดย ทั่ว ไป เรียก กัน ว่า พระ บัญญัติ สิบ ประการ ซึ่ง ก็ รวม ถึง พระ บัญชา ห้าม ฆ่า คน, ห้าม เล่นชู้, ห้าม ลัก ขโมย, ห้าม เป็น พยาน เท็จ, และ อย่า โลภ.
I have to wait what felt like an eternity to use that coveted new toy.
ผมต้องรอและรู้สึกต้องรอชั่วชีวิต เหมือนเด็กอยากได้ของเล่นชิ้นใหม่
The Argentinean newspaper Clarín commented: “In the second half of this century, economic covetousness, lack of caution, and negligence were responsible for great disasters that not only claimed human victims but also degraded the environment, often to incalculable limits.”
หนังสือ พิมพ์ คลารีน ของ อาร์เจนตินา ให้ ความ เห็น ว่า “ใน ครึ่ง หลัง ของ ศตวรรษ นี้ ความ โลภ ทาง เศรษฐกิจ, การ ขาด ความ ระมัดระวัง, และ ความ สะเพร่า เป็น ต้น เหตุ ของ ภัย พิบัติ อัน ใหญ่ หลวง ที่ ไม่ เพียง แต่ เป็น สาเหตุ แห่ง ความ ตาย ของ มนุษย์ เท่า นั้น แต่ ยัง ทํา ให้ สิ่ง แวด ล้อม เสียหาย ด้วย บ่อย ครั้ง ถึง ขีด ที่ ไม่ อาจ ประมาณ ค่า ได้.
God’s Word admonishes: “Deaden, therefore, your body members that are upon the earth as respects fornication, uncleanness, sexual appetite, hurtful desire, and covetousness, which is idolatry.
พระ คํา ของ พระเจ้า ตักเตือน ว่า “เหตุ ฉะนั้น จง ประหาร อวัยวะ แห่ง ร่าง กาย ของ ท่าน ทั้ง หลาย ซึ่ง อยู่ บน แผ่นดิน โลก นี้ ใน เรื่อง การ ล่วง ประเวณี, การ โสโครก, ราคะ ตัณหา, ความ ปรารถนา ที่ ก่อ ความ เสียหาย, และ ความ ละโมบ, ซึ่ง เป็น การ ไหว้ รูป เคารพ.
GOD’S WORD SAYS: “Deaden, therefore, your body members . . . as respects fornication, uncleanness, sexual appetite, hurtful desire, and covetousness, which is idolatry.” —Colossians 3:5.
หลักการ ใน พระ คํา ของ พระเจ้า: “ฉะนั้น จง กําจัด แนว โน้ม . . . ใน อวัยวะ ของ ท่าน ทั้ง หลาย คือ การ ผิด ประเวณี การ ประพฤติ ที่ ไม่ สะอาด ราคะ ตัณหา ความ ปรารถนา ที่ ก่อ ความ เสียหาย และ ความ โลภ ซึ่ง เป็น การ ไหว้ รูป เคารพ.”—โกโลซาย 3:5
The Bible says: “Each one of you should know how to get possession of his own vessel in sanctification and honor, not in covetous sexual appetite.” —1 Thessalonians 4:4, 5.
คัมภีร์ ไบเบิล บอก ว่า “ให้ พวก ท่าน แต่ ละ คน รู้ จัก ควบคุม ร่าง กาย ของ ตน เอง ให้ บริสุทธิ์ และ มี เกียรติ ไม่ ใช่ มักมาก ใน กาม.”—1 เทสซาโลนิเก 4:4, 5
(James 4:1) He answered that question by exposing their materialistic greed and added, “You go on . . . coveting,” or being “jealous.”
(ยาโกโบ 4:1, ล. ม.) ท่าน ตอบ คํา ถาม นั้น โดย เปิดโปง ความ โลภ ใน ทาง วัตถุ ของ พวก เขา และ เสริม ว่า “ท่าน ทั้ง หลาย . . .
* Thou shalt not covet thine own property, D&C 19:26.
* เจ้าจะไม่โลภทรัพย์สินของตนเอง, คพ. ๑๙:๒๖.
I worked hard at applying the Bible’s counsel recorded at Colossians 3:5-10: “Deaden, therefore, your body members that are upon the earth as respects fornication, uncleanness, sexual appetite, hurtful desire, and covetousness, which is idolatry.
ผม พยายาม มาก เพื่อ จะ ทํา ตาม คํา แนะ นํา ของ คัมภีร์ ไบเบิล ที่ บันทึก ใน โกโลซาย 3:5-10 ที่ ว่า “จง กําจัด แนว โน้ม แบบ โลก ซึ่ง ปรากฏ ใน อวัยวะ ของ ท่าน ทั้ง หลาย คือ การ ผิด ประเวณี การ ประพฤติ ที่ ไม่ สะอาด ราคะ ตัณหา ความ ปรารถนา ที่ ก่อ ความ เสียหาย และ ความ โลภ ซึ่ง เป็น การ ไหว้ รูป เคารพ.
The apostle Paul explained a similar principle when he wrote: “Deaden, therefore, your body members that are upon the earth as respects fornication, uncleanness, sexual appetite, hurtful desire, and covetousness, which is idolatry.”
อัครสาวก เปาโล ได้ ชี้ แจง หลักการ อย่าง เดียว กัน เมื่อ ท่าน เขียน ว่า “เหตุ ฉะนั้น จง ประหาร อวัยวะ แห่ง ร่าง กาย ของ ท่าน ทั้ง หลาย ซึ่ง อยู่ บน แผ่นดิน โลก นี้ ใน เรื่อง การ ล่วง ประเวณี การ โสโครก ราคะ ตัณหา ความ ปรารถนา ที่ เกิด ความ เสียหาย และ ความ ละโมบ ซึ่ง เป็น การ ไหว้ รูป เคารพ.”
“This is what God wills, . . . that each one of you should know how to get possession of his own vessel in sanctification and honor, not in covetous sexual appetite such as also those nations have which do not know God.” —1 Thessalonians 4:3-5.
“เพราะ นี่ แหละ เป็น สิ่ง ที่ พระเจ้า ประสงค์ . . . เพื่อ ท่าน แต่ ละ คน จะ รู้ วิธี ควบคุม ภาชนะ ของ ตน เอง ใน ทาง ที่ บริสุทธิ์ และ มี เกียรติ ไม่ ใช่ ด้วย ราคะ ตัณหา อย่าง ละโมบ เช่น ชาติ เหล่า นั้น ซึ่ง ไม่ รู้ จัก พระเจ้า มี ด้วย.”—1 เธซะโลนิเก 4:3-5, ล. ม.
Once cloth was obtained, weavers painstakingly unraveled and removed the coveted colored threads, discarding the cloth that remained.
เมื่อ ได้ ผ้า มา แล้ว ช่าง ทอ ผ้า ก็ จะ ดึง เส้น ด้าย ย้อม สี ซึ่ง เป็น ที่ ต้องการ มาก ออก มา ด้วย ความ ระมัดระวัง และ ทิ้ง ผ้า ส่วน ที่ เหลือ ไป.
Does this make them feel envious or covetous?
ทั้ง นี้ ทํา ให้ เขา รู้สึก อิจฉา ไหม?
“Deaden, therefore, your body members that are upon the earth as respects fornication, uncleanness, sexual appetite, hurtful desire, and covetousness, which is idolatry.” —Colossians 3:5.
‘จง กําจัด แนว โน้ม แบบ โลก ซึ่ง ปรากฏ ใน อวัยวะ ของ คุณ คือ การ ผิด ประเวณี การ ประพฤติ ที่ ไม่ สะอาด ราคะ ตัณหา ความ ปรารถนา ที่ ก่อ ความ เสียหาย และ ความ โลภ ซึ่ง เป็น การ ไหว้ รูป เคารพ.’—โกโลซาย 3:5
5:21) If any Christian begins to entertain such a covetous desire, he or she should act quickly to rout out the unclean desire, even at the cost of great emotional pain because of having allowed selfish cravings to develop.
5:21) ถ้า คริสเตียน คน ใด เริ่ม เพาะ ความ ปรารถนา ที่ เป็น ความ ละโมบ เช่น นั้น เขา หรือ เธอ ควร รีบ ขจัด ความ ปรารถนา ที่ ไม่ สะอาด เช่น นั้น ออก ไป แม้ จะ ต้อง เจ็บ ปวด ใจ มาก เพราะ เขา เอง ได้ ปล่อย ให้ มี ความ ปรารถนา ที่ เห็น แก่ ตัว เกิด ขึ้น.
Satan was the first to covet something that belonged to someone else —the glory, honor, and authority that are Jehovah’s alone.
ซาตาน เป็น บุคคล แรก ที่ โลภ อยาก ได้ บาง สิ่ง ที่ เป็น ของ ผู้ อื่น กล่าว คือ เกียรติยศ, ความ นับถือ, และ อํานาจ ซึ่ง เป็น ของ พระ ยะโฮวา แต่ ผู้ เดียว.
Jesus Christ, who had profound insight into the human heart, stated: “Out of the heart of men, injurious reasonings issue forth: fornications, thieveries, murders, adulteries, covetings, acts of wickedness, deceit, loose conduct, an envious eye, blasphemy, haughtiness, unreasonableness.”
พระ เยซู คริสต์ ซึ่ง เป็น ผู้ ที่ เข้าใจ ความ คิด อารมณ์ ความ รู้สึก ของ มนุษย์ ได้ ดี มาก ตรัส ว่า “เพราะ ความ คิด ชั่ว ร้าย ออก มา จาก ภาย ใน คือ ออก จาก หัวใจ มนุษย์ ได้ แก่ การ ผิด ประเวณี การ ขโมย การ ฆ่า คน การ เล่นชู้ ความ โลภ การ กระทํา ที่ ชั่ว ช้า การ ล่อ ลวง ความ ประพฤติ ที่ ไร้ ยางอาย ความ อิจฉา การ หมิ่น ประมาท ความ เย่อหยิ่ง ความ ไร้ เหตุ ผล.”
Understandably, Paul admonished Christians there to “abstain from fornication” and to avoid “covetous sexual appetite” and “uncleanness.” —1 Thessalonians 4:3-8.
ดัง นั้น ไม่ แปลก ที่ เปาโล กระตุ้น เตือน คริสเตียน ใน เมือง นี้ ให้ “ละ เว้น จาก การ ผิด ประเวณี,” ไม่ “มักมาก ใน กาม,” และ หลีก เลี่ยง “การ ประพฤติ ที่ ไม่ สะอาด.”—1 เทสซาโลนิเก 4:3-8
Centuries later, the apostle Paul repeated this command for Christians: “You must not covet.”
หลาย ศตวรรษ ต่อ มา อัครสาวก เปาโล ก็ กล่าว ย้ํา บัญญัติ นี้ กับ คริสเตียน อีก ครั้ง ว่า “อย่า โลภ.”

มาเรียนกันเถอะ ภาษาอังกฤษ

ตอนนี้เมื่อคุณรู้ความหมายของ covet ใน ภาษาอังกฤษ มากขึ้นแล้ว คุณจะได้เรียนรู้วิธีใช้คำเหล่านี้ผ่านตัวอย่างที่เลือกไว้และวิธี อ่านแล้วอย่าลืมเรียนรู้คำที่เกี่ยวข้องที่เราแนะนำ เว็บไซต์ของเรามีการปรับปรุงคำศัพท์ใหม่ๆ และตัวอย่างใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา เพื่อให้คุณสามารถค้นหาความหมายของคำอื่นๆ ที่คุณไม่ทราบใน ภาษาอังกฤษ

คำที่เกี่ยวข้องของ covet

อัปเดตคำของ ภาษาอังกฤษ

คุณรู้จัก ภาษาอังกฤษ ไหม

ภาษาอังกฤษมาจากชนเผ่าดั้งเดิมที่อพยพไปยังอังกฤษและมีวิวัฒนาการมาเป็นเวลากว่า 1,400 ปี ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่พูดมากเป็นอันดับสามของโลก รองจากจีนและสเปน เป็นภาษาที่สองที่มีการเรียนรู้มากที่สุด และภาษาราชการของเกือบ 60 ประเทศอธิปไตย ภาษานี้มีจำนวนผู้พูดเป็นภาษาที่สองและภาษาต่างประเทศมากกว่าเจ้าของภาษา ภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการร่วมของสหประชาชาติ สหภาพยุโรป และภาษาต่างประเทศอื่น ๆ อีกมากมาย และองค์กรระดับภูมิภาค ปัจจุบัน ผู้พูดภาษาอังกฤษทั่วโลกสามารถสื่อสารกันได้อย่างคล่องตัว