feast ใน ภาษาอังกฤษ หมายถึงอะไร

ความหมายของคำว่า feast ใน ภาษาอังกฤษ คืออะไร บทความอธิบายความหมายแบบเต็ม การออกเสียงพร้อมกับตัวอย่างสองภาษาและคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีใช้ feast ใน ภาษาอังกฤษ

คำว่า feast ใน ภาษาอังกฤษ หมายถึง งานเลี้ยงฉลอง, เลี้ยง, งาน หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม โปรดดูรายละเอียดด้านล่าง

ฟังการออกเสียง

ความหมายของคำว่า feast

งานเลี้ยงฉลอง

noun

They have been invited to a wedding feast in Cana.
พวก เขา ได้ รับ เชิญ ไป ยัง งาน เลี้ยง ฉลอง การ สมรส ใน เมือง คานา.

เลี้ยง

verb

I understand the champion escorts my lady to the feast.
กระหม่อมเข้าใจว่าผู้ที่ชนะในการแข่งขันนี้ จะได้เป็นคู่ควงของท่านหญิงในงานเลี้ยง

งาน

noun

Tomorrow there will be a great feast to welcome our worthy friends.
พรุ่งนี้จะมีงานฉลองใหญ่ เพื่อต้อนรับเหล่าเพื่อนที่แสนดีของเรา

ดูตัวอย่างเพิ่มเติม

But in many parts of Africa, hundreds who attend the funeral descend on the home of the deceased and expect a feast, where animals are often sacrificed.
แต่ ใน ภูมิภาค หลาย แห่ง ของ แอฟริกา ผู้ คน นับ ร้อย ที่ มา ร่วม งาน ศพ จะ พา กัน ย้อน กลับ ไป บ้าน ผู้ ตาย และ คาด หมาย การ เลี้ยง ใหญ่ ซึ่ง มัก จะ มี การ ฆ่า สัตว์ บ่อย ๆ.
Like a torrent it will sweep them into exile beyond Damascus, and the ivory-decked houses of their sprawling feasts will be turned to rubble and debris.
เหมือน กระแส น้ํา เชี่ยว กราก วัน นั้น จะ กวาด พวก เขา ไป เป็น เชลย ไกล กว่า ดามัสกัส (ดาเมเซ็ค) และ เรือน ที่ ตกแต่ง ด้วย งา ช้าง สําหรับ งาน เลี้ยง เอิกเกริก จะ ถูก ทํา ให้ กลาย เป็น ซาก ปรัก หัก พัง.
This night I hold an old accustom'd feast, Whereto I have invited many a guest,
คืนฉันถือฉลอง accustom'd เก่านี้ไปยังที่นั้นฉันได้รับเชิญผู้เข้าร่วมจํานวนมาก
Recall that Jesus chose to be present at one such feast.
เรา คง จํา ได้ ว่า พระ เยซู ทรง เลือก ที่ จะ ร่วม งาน เลี้ยง เช่น นั้น ใน โอกาส หนึ่ง.
“All the days of the afflicted one are bad, but the one with a cheerful heart has a continual feast.” —Proverbs 15:15.
“วัน เวลา ทั้ง หมด ของ คน รับ ทุกข์ เป็น ที่ เศร้า หมอง แต่ คน ที่ มี ใจ ชื่น บาน เปรียบ เหมือน มี การ เลี้ยง อยู่ เสมอ”—สุภาษิต 15:15
13TH VISION (19:11-21): Jesus leads the armies of heaven to execute God’s wrathful judgment on Satan’s system, its armies, and its supporters; carrion birds feast on their corpses.
นิมิต ที่ 13 (19:11-21): พระ เยซู นํา กองทัพ แห่ง สวรรค์ เพื่อ ลง โทษ ระบบ ของ ซาตาน, กองทัพ ของ มัน, และ เหล่า ผู้ สนับสนุน มัน ตาม การ พิพากษา เนื่อง ด้วย พระ พิโรธ ของ พระเจ้า; พวก นก ที่ กิน ของ เปื่อย เน่า กิน ซาก ศพ พวก เขา.
What a spiritual feast we enjoyed at the “Teachers of God’s Word” District Convention!
นับ ว่า เป็น งาน เลี้ยง ใหญ่ ฝ่าย วิญญาณ อย่าง แท้ จริง ที่ พวก เรา ได้ เข้า ร่วม ณ การ ประชุม ภาค “ผู้ สอน พระ คํา ของ พระเจ้า”!
She feasts on rotten fruit like any other troll!
นางจะกินเพียงผลไม้เน่า ๆ เหมือนกับพวกโทรลอื่น ๆ
The pope continued: “It seemed logical and natural to Christians to replace that feast with the celebration of the only and true Sun, Jesus Christ.”
โปป กล่าว ต่อ ไป ว่า “ดู เหมือน สม เหตุ ผล และ เป็น ธรรมดา อยู่ เอง ที่ คริสเตียน จะ แทน ที่ วัน นักขัตฤกษ์ นั้น ด้วย การ เฉลิม ฉลอง พระ อาทิตย์ องค์ เที่ยง แท้ องค์ เดียว คือ พระ เยซู คริสต์.”
“The kingdom of the heavens has become like a man, a king, that made a marriage feast for his son.
“แผ่นดิน สวรรค์ อุปมา เหมือน กษัตริย์ องค์ หนึ่ง ได้ จัด การ เตรียม อภิเษก มเหสี ให้ ราชโอรส ของ ท่าน.
In a spirit of meditation, I reflected upon that day, the first day of the feast of the unleavened bread, when Jesus, in response to His disciples’ question about where to prepare for the Passover, answered them, saying, “Go into the city to such a man, and say unto him, The Master saith, My time is at hand; I will keep the passover at thy house with my disciples.” 7
ด้วยการพิจารณาอย่างมุ่งมั่น ข้าพเจ้านึกถึงวันนั้น วันแรกของเทศกาลกินขนมปังไร้เชื้อ เมื่อพระเยซูทรงตอบคําถามของสานุศิษย์ของพระองค์ว่าจะเตรียมปัสกาที่ไหน พระองค์ตรัสว่า “จงเข้าไปในเมืองหาคนผู้หนึ่ง แล้วบอกเขาว่า อาจารย์พูดว่า กําหนดเวลาของเรามาใกล้แล้ว เราจะถือปัสกาที่บ้านของท่าน พร้อมกับสาวกทั้งหลายของเรา”7
(Exodus 19:5-8) But when would they actually be called to “the marriage feast”?
ดัง นั้น พวก เขา คือ กลุ่ม แรก ที่ มี โอกาส เป็น ส่วน หนึ่ง ของ “รัฐบาล ที่ มี ปุโรหิต ปกครอง” (อพยพ 19:5-8) แต่ พวก เขา ได้ รับ เชิญ มา “งาน แต่งงาน” เมื่อ ไร? ใน ปี ค.
While cattle, marooned on patches of high ground, look on with envious eyes and empty stomachs, buffalo around them, treading water, feast on floating plants and even graze underwater.
ขณะ ที่ วัว ซึ่ง ถูก ปล่อย เกาะ อยู่ ตาม เนิน ดิน ผืน น้อย มอง ตา ปริบ ๆ ด้วย ความ อิจฉา และ ท้อง กิ่ว บรรดา ควาย ที่ อยู่ รอบ ข้าง ต่าง ก็ เดิน ย่ํา ไป ใน น้ํา อิ่ม หนํา ด้วย พืช ที่ ลอย อยู่ และ กระทั่ง เล็ม หญ้า ใต้ น้ํา ด้วย ซ้ํา.
So when the time comes, Christ does not open the door to the marriage feast in heaven to them.
ดัง นั้น เมื่อ ถึง เวลา พระ คริสต์ ไม่ ทรง เปิด ประตู เข้า สู่ งาน เลี้ยง ฉลอง สมรส ใน สวรรค์ ให้ แก่ พวก เขา.
As he nears home, his father takes the positive step of welcoming him, even holding a feast.
ขณะ ที่ เขา ใกล้ จะ ถึง บ้าน บิดา ก็ ออก ไป ต้อนรับ เขา แถม จัด การ เลี้ยง ใหญ่ ด้วย.
Those tempted to go uninvited should ask themselves, ‘Would my attending this wedding feast not show a lack of love for the newlyweds?
คน เหล่า นั้น ที่ ถูก ล่อ ใจ ให้ ไป โดย ไม่ ได้ รับ เชิญ น่า จะ ถาม ตัว เอง ว่า ‘การ ที่ ฉัน เข้า ร่วม งาน เลี้ยง สมรส นี้ จะ ไม่ แสดง ให้ เห็น การ ขาด ความ รัก ต่อ คู่ สมรส ใหม่ หรอก หรือ?
In your scripture study journal, write in your own words what you think it means to feast upon the words of Christ.
ในสมุดบันทึกการศึกษาพระคัมภีร์ของท่าน ให้เขียนด้วยคําพูดของท่านเองว่าดื่มด่ําพระวจนะของพระคริสต์หมายความว่าอย่างไร
You excited about the winter feast?
พวกท่านตื่นเต้นกัยงานฉลองฤดูหนาวบ้างป่ะ
They learn of the Festival of Booths that should be celebrated this very seventh month, and they immediately arrange to build booths for this feast to Jehovah.
พวก เขา เรียน รู้ ว่า ควร ฉลอง เทศกาล ตั้ง ทับ อาศัย ใน เดือน ที่ เจ็ด นี้ เอง และ พวก เขา เตรียม การ ทันที เพื่อ สร้าง ทับ อาศัย สําหรับ งาน เลี้ยง นี้ แด่ พระ ยะโฮวา.
Why would Jesus perform such a marvelous deed in answer to something as trivial as a shortage of wine at a wedding feast?
ทําไม พระ เยซู จะ ทํา การ อัศจรรย์ เช่น นั้น เพียง เพื่อ แก้ ปัญหา เล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น การ ที่ เหล้า องุ่น หมด ใน งาน เลี้ยง สมรส?
Thus, on that occasion, they were originally extended the invitation to the marriage feast.
ด้วย เหตุ นี้ ใน โอกาส นั้น มี การ เสนอ คํา เชิญ มา ยัง งาน เลี้ยง สมรส แก่ พวก เขา.
It was the festive time of sheepshearing, when generosity and feasting were customary.
ขณะ นั้น เป็น ช่วง เทศกาล ตัด ขน แกะ ซึ่ง ตาม ปกติ แล้ว จะ มี งาน เลี้ยง รื่นเริง และ การ แจก ปัน.
That I will show you shining at this feast, And she shall scant show well that now shows best.
ที่ฉันจะแสดงให้คุณส่องแสงที่งานฉลองนี้และเธอจะแสดงขาดแคลนกันดีว่าตอนนี้แสดงที่ดีที่สุด
Not even the fierce tropical heat followed by torrential downpours could dampen the unrestrained delight of brothers enjoying a spiritual feast together.
แม้ สภาพ อากาศ ที่ ร้อน จัด ตาม ด้วย ฝน ตก อย่าง รุนแรง ก็ ไม่ สามารถ ลด ความ ยินดี อย่าง ท่วมท้น ของ พี่ น้อง ซึ่ง กําลัง ชื่นชม กับ การ เลี้ยง ใหญ่ ฝ่าย วิญญาณ ด้วย กัน.
While feasting on fried eggs, French bread, and cheese, we learn more about missionary life.
ใน ระหว่าง ที่ เรา กําลัง เอร็ดอร่อย กับ ไข่ ดาว, ขนมปัง ฝรั่งเศส, และ เนย แข็ง เรา ได้ รู้ จัก ชีวิต มิชชันนารี มาก ขึ้น.

มาเรียนกันเถอะ ภาษาอังกฤษ

ตอนนี้เมื่อคุณรู้ความหมายของ feast ใน ภาษาอังกฤษ มากขึ้นแล้ว คุณจะได้เรียนรู้วิธีใช้คำเหล่านี้ผ่านตัวอย่างที่เลือกไว้และวิธี อ่านแล้วอย่าลืมเรียนรู้คำที่เกี่ยวข้องที่เราแนะนำ เว็บไซต์ของเรามีการปรับปรุงคำศัพท์ใหม่ๆ และตัวอย่างใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา เพื่อให้คุณสามารถค้นหาความหมายของคำอื่นๆ ที่คุณไม่ทราบใน ภาษาอังกฤษ

คำที่เกี่ยวข้องของ feast

อัปเดตคำของ ภาษาอังกฤษ

คุณรู้จัก ภาษาอังกฤษ ไหม

ภาษาอังกฤษมาจากชนเผ่าดั้งเดิมที่อพยพไปยังอังกฤษและมีวิวัฒนาการมาเป็นเวลากว่า 1,400 ปี ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่พูดมากเป็นอันดับสามของโลก รองจากจีนและสเปน เป็นภาษาที่สองที่มีการเรียนรู้มากที่สุด และภาษาราชการของเกือบ 60 ประเทศอธิปไตย ภาษานี้มีจำนวนผู้พูดเป็นภาษาที่สองและภาษาต่างประเทศมากกว่าเจ้าของภาษา ภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการร่วมของสหประชาชาติ สหภาพยุโรป และภาษาต่างประเทศอื่น ๆ อีกมากมาย และองค์กรระดับภูมิภาค ปัจจุบัน ผู้พูดภาษาอังกฤษทั่วโลกสามารถสื่อสารกันได้อย่างคล่องตัว