fourteenth ใน ภาษาอังกฤษ หมายถึงอะไร

ความหมายของคำว่า fourteenth ใน ภาษาอังกฤษ คืออะไร บทความอธิบายความหมายแบบเต็ม การออกเสียงพร้อมกับตัวอย่างสองภาษาและคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีใช้ fourteenth ใน ภาษาอังกฤษ

คำว่า fourteenth ใน ภาษาอังกฤษ หมายถึง ที่ 14, ที่สิบสี่, อันดัีบสิบสี่ หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม โปรดดูรายละเอียดด้านล่าง

ฟังการออกเสียง

ความหมายของคำว่า fourteenth

ที่ 14

adjective

I gave this to Ali for her fourteenth birthday.
ฉันให้อัลลี่ตอนเธออายุ 14

ที่สิบสี่

adjectivenoun

I recently celebrated my fourteenth millennium.
ฉันเพิ่งฉลองสหัสวรรษ ที่สิบสี่ของฉัน

อันดัีบสิบสี่

noun

ดูตัวอย่างเพิ่มเติม

Fourteenth-century English cleric John Wycliffe, for example, viewed the Bible as “the infallible rule of truth.”
ตัว อย่าง เช่น จอห์น วิคลิฟฟ์ นัก บวช ชาว อังกฤษ ใน ศตวรรษ ที่ สิบ สี่ ถือ ว่า คัมภีร์ ไบเบิล เป็น “กฎ แห่ง ความ จริง ที่ ไม่ มี ผิด พลาด.”
I recently celebrated my fourteenth millennium.
ฉันเพิ่งฉลองสหัสวรรษ ที่สิบสี่ของฉัน
'Fourteenth of March, I think it was,'he said.
กับหนูดอร์มาวส ́สิบสี่ของเดือนมีนาคมผมคิดว่ามัน ́เขา
L. von Mosheim wrote: “The Christians of Asia Minor were accustomed to celebrate this sacred feast, commemorative of the institution of the Lord’s supper, and the death of Jesus Christ, at the same time when the Jews ate their Paschal lamb, namely on the evening of the fourteenth day of the first month [Nisan]. . . .
ฟอน โมสไฮม์ เขียน เกี่ยว กับ พวก เขา ว่า “ชน คริสเตียน ใน เอเชีย น้อย คุ้น เคย กับ การ ฉลอง งาน เลี้ยง อัน ศักดิ์สิทธิ์ นี้ เพื่อ เป็น อนุสรณ์ เกี่ยว กับ การ ตั้ง อาหาร มื้อ เย็น ของ องค์ พระ ผู้ เป็น เจ้า และ การ วาย พระ ชนม์ ของ พระ เยซู คริสต์ ขึ้น ใน เวลา เดียว กัน กับ ที่ พวก ยิว รับประทาน แกะ ปัศคา ของ เขา กล่าว คือ ใน ตอน เย็น ของ วัน ที่ สิบ สี่ ใน เดือน แรก [ไนซาน] . . . .
This is going to be approximately equal to x- squared minus x to the sixth over three factorial plus x to the tenth over five factorial minus x to the fourteenth over seven factorial
x กําลังสอง ลบ x กําลัง 6 ส่วน 3 แฟคทอเรียล บวก x กําลัง 10 ส่วน 5 แฟคทอเรียล ลบ x กําลัง 14 ส่วน 7 แฟคทอเรียล
18 And thus ended the fourteenth year.
๑๘ และปีที่สิบสี่สิ้นสุดลงดังนี้.
In time they came to be called Quartodecimans, meaning “Fourteenthers.”
ในที่ สุด พวก เขา ถูก เรียก ว่า ควอร์โทเดสิมานส์ หมาย ความ ว่า “ผู้ ถือ วัน ที่ สิบ สี่.”
My fourteenth year was rough but good.
มันลําบากมากเลยปีที่ฉันอายุ 14
Fourteenth President of the Church
ประธานศาสนจักรคนที่สิบสี่
12 And the Lamanites did not come again to war against the Nephites until the fourteenth year of the reign of the judges over the people of Nephi.
๑๒ และชาวเลมันไม่ได้มาทําสงครามกับชาวนีไฟอีกจนกระทั่งปีที่สิบสี่แห่งการปกครองของผู้พิพากษาเหนือผู้คนของนีไฟ.
They came to be known as “Fourteenthers,” or Quartodecimans.
พวก เขา เป็น ที่ รู้ จัก ว่า “ผู้ ถือ วัน ที่ สิบ สี่” หรือ พวก ควอร์โทเดสิมานส์.
It agrees with the historical event recorded in the Bible at 2 Kings 18:13, 14: “In the fourteenth year of King Hezekiah, Sennacherib the king of Assyria came up against all the fortified cities of Judah and proceeded to seize them.
ภาพ และ คํา จารึก นั้น สอดคล้อง กับ เหตุ การณ์ ทาง ประวัติศาสตร์ ซึ่ง บันทึก อยู่ ใน คัมภีร์ ไบเบิล ที่ 2 กษัตริย์ 18:13, 14 ว่า “ใน ปี ที่ สิบ สี่ แห่ง รัชกาล กษัตริย์ ฮีศคียา, ซันแฮริบ กษัตริย์ อะซูริยะ [อัสซีเรีย] ก็ ยก ทัพ มา ตี เอา บรรดา หัวเมือง ที่ มี กําแพง แห่ง ประเทศ ยูดา.
Some scholars recognized that these “Fourteenthers” were following the original apostolic pattern.
ผู้ คง แก่ เรียน บาง คน ยอม รับ ว่า “ผู้ ถือ วัน ที่ สิบ สี่” เหล่า นี้ ติด ตาม แบบ อย่าง ดั้งเดิม ของ พวก อัครสาวก.
Says one reference work: “The Christians of Asia Minor were called Quartodecimans [Fourteenthers] from their custom of celebrating the pascha [Lord’s Evening Meal] invariably on the 14th of Nisan . . .
หนังสือ อ้างอิง เล่ม หนึ่ง กล่าว ดัง นี้: “พวก คริสเตียน ใน เอเชีย ไมเนอร์ ถูก เรียก ว่า เป็น ควอร์โทเดซิมานุส [ผู้ ถือ วัน ที่ สิบ สี่] เนื่อง จาก พวก เขา ถือ เป็น ธรรมเนียม ที่ จะ ฉลอง ปัศคา [อาหาร มื้อ เย็น ของ องค์ พระ ผู้ เป็น เจ้า] เป็น ประจํา ใน วัน ที่ 14 เดือน ไนซาน . . .
Because they did so on Nisan 14, they were called Quartodecimans, meaning “fourteenthers.”
เพราะ พวก เขา ทํา เช่น นั้น ใน วัน ที่ 14 เดือน ไนซาน พวก เขา จึง ถูก เรียก ว่า พวก ควอร์โทเดสิมานส์ หมาย ความ ว่า “พวก วัน ที่ สิบ สี่.”
I gave this to Ali for her fourteenth birthday.
ฉันให้อัลลี่ตอนเธออายุ 14
At the end of the second century, according to Eusebius of Caesarea in his work Ecclesiastical History, Polycrates of Ephesus sent a letter to Rome defending the observance of “the fourteenth day of the Passover according to the Gospel, never deviating, but following according to the rule of the faith.”
ตาม ที่ ยูเซบิอุส แห่ง ซีซาเรีย กล่าว ไว้ ใน งาน เขียน ของ เขา ชื่อ ประวัติศาสตร์ ของ คริสตจักร ช่วง ปลาย ศตวรรษ ที่ สอง โพลิกราติส แห่ง เอเฟโซส์ ส่ง จดหมาย ไป ที่ กรุง โรม เพื่อ สนับสนุน การ ฉลอง “ใน วัน ที่ สิบ สี่ ซึ่ง เป็น วัน ปัศคา ดัง ที่ บันทึก ไว้ ใน กิตติคุณ โดย ไม่ หันเห ออก ไป แต่ ทํา ตาม หลัก ข้อ เชื่อ ของ คริสเตียน.”
The coincidence is so remarkable, that it seems hardly possible to believe that the land, to which the sailors on the fourteenth night [approached] could be any other place than Malta.
การ ประจวบ เหมาะ นี้ น่า ทึ่ง มาก ซึ่ง ดู เหมือน ไม่ น่า เป็น ไป ได้ ที่ จะ เชื่อ ว่า ดินแดน ที่ ลูกเรือ [เข้า ไป ใกล้] ใน คืน ที่ สิบ สี่ จะ เป็น ที่ อื่น ใด นอก เสีย จาก เกาะ มอลตา.
21 And now after the church had been established throughout all the land—having got the avictory over the devil, and the word of God being preached in its purity in all the land, and the Lord pouring out his blessings upon the people—thus ended the fourteenth year of the reign of the judges over the people of Nephi.
๒๑ และบัดนี้หลังจากสถาปนาศาสนจักรขึ้นทั่วทั้งแผ่นดินแล้ว—โดยมีชัยชนะกเหนือมาร, และพระวจนะของพระผู้เป็นเจ้าโดยที่สั่งสอนในความพิศุทธิ์ทั่วแผ่นดิน, และพระเจ้าทรงเทพรของพระองค์ลงมาบนผู้คน—ปีที่สิบสี่แห่งการปกครองของผู้พิพากษาเหนือผู้คนของนีไฟจึงสิ้นสุดลงดังนี้.
Interestingly, for several centuries after Christ, many professed Christians were called Quartodecimans, meaning “Fourteenthers,” because they commemorated Jesus’ death once a year, on Nisan 14.
น่า สนใจ เป็น เวลา หลาย ศตวรรษ หลัง จาก พระ คริสต์ มี หลาย คน ที่ อ้าง ตัว เป็น คริสเตียน ถูก เรียก ว่า พวก ควอร์โทเดสิมานส์ ซึ่ง หมายความ ว่า “พวก วัน ที่ สิบ สี่” เพราะ พวก เขา ระลึก ถึง การ วาย พระ ชนม์ ของ พระ คริสต์ ปี ละ ครั้ง ใน วัน ที่ 14 เดือน ไนซาน.
In harmony with this, historian John Laurence von Mosheim reports that the second-century Christians in Asia Minor were accustomed to observing the Memorial of Jesus’ death “on the fourteenth day of the first Jewish month [Nisan].”
ประสาน กับ เรื่อง นี้ นัก ประวัติศาสตร์ จอห์น ลอเรนซ์ ฟอน โมสไฮม์ รายงาน ว่า คริสเตียน ใน ศตวรรษ ที่ สอง ซึ่ง อยู่ ใน เอเชีย ไมเนอร์ เคย ชิน กับ การ ฉลอง การ ประชุม อนุสรณ์ เกี่ยว กับ การ วาย พระ ชนม์ ของ พระ เยซู “ใน วัน ที่ สิบ สี่ เดือน แรก [ไนซาน] ตาม ปฏิทิน ของ ชาว ยิว.”
17 And it came to pass in the commencement of the fourteenth year, the war between the robbers and the people of Nephi did continue and did become exceedingly sore; nevertheless, the people of Nephi did gain some advantage of the robbers, insomuch that they did drive them back out of their lands into the mountains and into their secret places.
๑๗ และเหตุการณ์ได้บังเกิดขึ้นในตอนต้นของปีที่สิบสี่, สงครามระหว่างพวกโจรกับผู้คนของนีไฟดําเนินต่อไปและกลับดุเดือดยิ่งขึ้น; กระนั้นก็ตาม, ผู้คนของนีไฟยังได้เปรียบพวกโจรอยู่บ้าง, ถึงขนาดที่พวกเขาขับไล่คนพวกนั้นกลับออกไปจากผืนแผ่นดินของตนเข้าไปในภูเขาและสถานที่ลับของคนพวกนั้น.

มาเรียนกันเถอะ ภาษาอังกฤษ

ตอนนี้เมื่อคุณรู้ความหมายของ fourteenth ใน ภาษาอังกฤษ มากขึ้นแล้ว คุณจะได้เรียนรู้วิธีใช้คำเหล่านี้ผ่านตัวอย่างที่เลือกไว้และวิธี อ่านแล้วอย่าลืมเรียนรู้คำที่เกี่ยวข้องที่เราแนะนำ เว็บไซต์ของเรามีการปรับปรุงคำศัพท์ใหม่ๆ และตัวอย่างใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา เพื่อให้คุณสามารถค้นหาความหมายของคำอื่นๆ ที่คุณไม่ทราบใน ภาษาอังกฤษ

คำที่เกี่ยวข้องของ fourteenth

อัปเดตคำของ ภาษาอังกฤษ

คุณรู้จัก ภาษาอังกฤษ ไหม

ภาษาอังกฤษมาจากชนเผ่าดั้งเดิมที่อพยพไปยังอังกฤษและมีวิวัฒนาการมาเป็นเวลากว่า 1,400 ปี ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่พูดมากเป็นอันดับสามของโลก รองจากจีนและสเปน เป็นภาษาที่สองที่มีการเรียนรู้มากที่สุด และภาษาราชการของเกือบ 60 ประเทศอธิปไตย ภาษานี้มีจำนวนผู้พูดเป็นภาษาที่สองและภาษาต่างประเทศมากกว่าเจ้าของภาษา ภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการร่วมของสหประชาชาติ สหภาพยุโรป และภาษาต่างประเทศอื่น ๆ อีกมากมาย และองค์กรระดับภูมิภาค ปัจจุบัน ผู้พูดภาษาอังกฤษทั่วโลกสามารถสื่อสารกันได้อย่างคล่องตัว