infirmity ใน ภาษาอังกฤษ หมายถึงอะไร

ความหมายของคำว่า infirmity ใน ภาษาอังกฤษ คืออะไร บทความอธิบายความหมายแบบเต็ม การออกเสียงพร้อมกับตัวอย่างสองภาษาและคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีใช้ infirmity ใน ภาษาอังกฤษ

คำว่า infirmity ใน ภาษาอังกฤษ หมายถึง โรค, ความอ่อนแอ, ความเจ็บป่วย หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม โปรดดูรายละเอียดด้านล่าง

ฟังการออกเสียง

ความหมายของคำว่า infirmity

โรค

noun

My cancer is now in remission, and we serve in a Goldsboro congregation as infirm special pioneers.
ตอนนี้โรคมะเร็งที่ผมเป็นอยู่ทุเลาลง และเรารับใช้ในประชาคมหนึ่งที่เมืองโกลส์โบโรในฐานะไพโอเนียร์พิเศษที่สุขภาพไม่แข็งแรง.

ความอ่อนแอ

noun

It may be that Paul suffered from an eye affliction or some other physical infirmity.
อาจ เป็น ได้ ว่า เปาโล ทน ทุกข์ จาก ปัญหา ที่ เกี่ยว กับ ดวง ตา หรือ ความ อ่อนแอ อื่น ๆ ทาง กาย.

ความเจ็บป่วย

noun

Of course, it is not always the parents who become infirm first.
แน่นอน พ่อแม่อาจจะไม่เจ็บป่วยหรือทุพพลภาพก่อนลูกเสมอไป.

ดูตัวอย่างเพิ่มเติม

(Exodus 14:4-31; 2 Kings 18:13–19:37) And through Jesus Christ, Jehovah demonstrated that his purpose includes healing people of “every sort of infirmity,” even resurrecting the dead.
(เอ็กโซโด 14:4-31; 2 กษัตริย์ 18:13–19:37) และ โดย ทาง พระ เยซู คริสต์ พระ ยะโฮวา ทรง แสดง ให้ เห็น ว่า พระ ประสงค์ ของ พระองค์ รวม ไป ถึง การ รักษา “ความ ป่วย ไข้ ทุก อย่าง” ของ ผู้ คน ให้ หาย แม้ กระทั่ง ปลุก คน ตาย ให้ กลับ เป็น ขึ้น มา อีก.
When a couple truly love each other, they remain together even if a physical relationship is no longer possible because of the infirmities of old age or because one of them is incapacitated.
เมื่อ คู่ สมรส รัก กัน อย่าง แท้ จริง ทั้ง สอง ยัง คง ครอง คู่ กัน แม้ แต่ เมื่อ ไม่ สามารถ มี ความ สัมพันธ์ ทาง กาย อีก ต่อ ไป อัน เนื่อง จาก ความ อ่อนแอ ที่ มา พร้อม กับ วัย ชรา หรือ เพราะ คน ใด คน หนึ่ง ไร้ สมรรถภาพ.
My infirmities remained.
ความ ทุพพลภาพ ของ ผม ยัง คง มี อยู่ ต่อ ไป.
10 So he summoned his 12 disciples and gave them authority over unclean spirits,+ in order to expel these and to cure every sort of disease and every sort of infirmity.
10 พระ เยซู เรียก สาวก 12 คน ของ ท่าน มา และ ให้ อํานาจ พวก เขา ขับ ไล่ ปีศาจ+และ รักษา โรค ภัย ไข้ เจ็บ ทุก ชนิด ได้
As far as being free of my infirmities one day, that hope seemed unrealistic.
ความ คิด ที่ ว่า ผม จะ หาย พิการ ใน วัน ข้าง หน้า เป็น ความ หวัง ที่ ดู เหมือน ไม่ มี วัน เป็น จริง ได้ เลย.
Special emphasis was given to telephone witnessing, especially for the infirm.
มี การ เน้น เป็น พิเศษ เรื่อง การ ให้ คํา พยาน ทาง โทรศัพท์ โดย เฉพาะ อย่าง ยิ่ง สําหรับ ผู้ ทุพพลภาพ.
For those with physical limitations or infirmities, each day is a challenge.
สําหรับ คน ที่ มี ข้อ จํากัด ต่าง ๆ ทาง กาย หรือ ทุพพลภาพ แต่ ละ วัน ที่ ผ่าน ไป นับ เป็น เรื่อง ท้าทาย.
The Gospel writer Matthew records that Jesus “went around throughout the whole of Galilee, teaching . . . and preaching the good news of the kingdom and curing every sort of disease and every sort of infirmity among the people.”
มัดธาย ผู้ เขียน กิตติคุณ บันทึก ว่า พระ เยซู “ได้ เสด็จ ไป ทั่ว มณฑล ฆาลิลาย, ทรง สั่ง สอน . . . , ทรง ประกาศ เรื่อง ประเสริฐ แห่ง แผ่นดิน ของ พระเจ้า, และ ทรง รักษา โรค ไข้ ต่าง ๆ [“โรค ทุก ชนิด,” ล. ม.] ของ ชาว เมือง ให้ หาย.”
Plan to help others, including the elderly and the infirm.
วาง แผน ช่วยเหลือ คน อื่น รวม ถึง ผู้ สูง อายุ และ คน ป่วย
Special transportation and assistance were provided for the elderly and the infirm.
มี การ จัด เตรียม เรื่อง การ เดิน ทาง และ การ ช่วยเหลือ เป็น พิเศษ สําหรับ ผู้ สูง อายุ และ ผู้ ทุพพลภาพ.
o “The Savior took upon Himself our pains, sicknesses, and infirmities so He could succor us as we face the challenges of mortality” (5).
o “พระผู้ช่วยให้รอดทรงรับเอาความเจ็บปวด ความป่วยไข้ และความทุพพลภาพของเรามาไว้กับพระองค์เพื่อพระองค์จะทรงช่วยเราได้เมื่อเราประสบความท้าทายของความเป็นมรรตัย” (5)
I have long understood that Jesus Christ “descended below all things” (D&C 88:6) so that He would be able “to succor [give relief or aid to] his people according to their infirmities” (Alma 7:12).
ผมเข้าใจมานานว่าพระเยซูคริสต์ “เสด็จลงต่ํากว่าสิ่งทั้งปวง” (คพ.
By “curing every sort of disease and every sort of infirmity,” Jesus demonstrated the healing that will take place under God’s Kingdom. —Matthew 4:23.
โดย ทรง “รักษา โรค ทุก ชนิด รวม ทั้ง ความ ทุพพลภาพ ทุก อย่าง” พระ เยซู แสดง ถึง การ บําบัด รักษา ที่ จะ เกิด ขึ้น ภาย ใต้ ราชอาณาจักร ของ พระเจ้า.—มัดธาย 4:23.
14 Are there infirm publishers in your book study group who have great difficulty sharing in the ministry?
14 มี ผู้ ประกาศ ที่ ทุพพลภาพ ใน กลุ่ม ของ คุณ ที่ ออก ประกาศ แทบ ไม่ ได้ ไหม?
A nursing mother might need to sit close to the restroom, or an infirm one might need an aisle seat, but what about others of us?
แม่ ลูก อ่อน อาจ อยาก นั่ง ใกล้ ห้อง สุขา หรือ คน ทุพพลภาพ อาจ อยาก ได้ ที่ นั่ง ริม ๆ แต่ พวก เรา คน อื่น ๆ เป็น อย่าง ไร?
Physical infirmity, strong arms.
ร่างกายบกพร่อง แขนแข็งแรง
We remember that He took “upon him [our] infirmities, that his bowels may be filled with mercy, according to the flesh, that he may know according to the flesh how to succor his people according to [our] infirmities” (Alma 7:12).
เราระลึกถึงที่พระองค์ทรงรับเอา “ความทุพพลภาพของพวกเขา, เพื่ออุทรของพระองค์จะเปี่ยมไปด้วยพระเมตตา, ตามเนื้อหนัง, เพื่อพระองค์จะทรงรู้ตามเนื้อหนังว่าจะทรงช่วยผู้คนของพระองค์ตามความทุพพลภาพของพวกเขาได้อย่างไร” (แอลมา 7:12)
In what ways can we show consideration for the elderly and the infirm?
เรา จะ แสดง อย่าง ไร ว่า เรา คิด ถึง ความ รู้สึก ของ พี่ น้อง สูง อายุ เจ็บ ป่วย และ พิการ?
(Matthew 10:1-7) He himself had “set out on a tour of all the [Galilean] cities and villages, teaching in their synagogues and preaching the good news of the kingdom and curing every sort of disease and every sort of infirmity.”
(มัดธาย 10:1-7, ล. ม.) ส่วน พระองค์ เอง ได้ “เสด็จ ดําเนิน ไป รอบ บ้าน รอบ เมือง [ใน แกลิลี] ทรง สั่ง สอน ใน ธรรมศาลา ของ เขา, ประกาศ กิตติคุณ แห่ง แผ่นดิน ของ พระเจ้า, และ ได้ ทรง รักษา โรค และ ความ ป่วย ไข้ ของ พลเมือง ให้ หาย.”
Ask students to consider the infirmities listed on the board that people may need to be healed of.
ขอให้นักเรียนพิจารณาความทุพพลภาพที่เขียนอยู่บนกระดานที่คนอาจจําเป็นต้องได้รับการรักษาให้หาย
▪ Arrangements should be made to serve any of the anointed who are infirm and unable to be present.
▪ ควร เตรียม การ เพื่อ เสิร์ฟ เครื่องหมาย แก่ ผู้ ถูก เจิม ที่ ทุพพลภาพ ซึ่ง ไม่ สามารถ มา ยัง การ ประชุม ได้.
▪ Arrangements should be made to serve any of the anointed who are infirm and unable to be present.
▪ อาจ จัด เตรียม เรื่อง การ ประชุม อนุสรณ์ แก่ พี่ น้อง ที่ ป่วย หนัก หรือ ทุพพลภาพ ซึ่ง ไม่ สามารถ เข้า ร่วม การ ประชุม ได้.
▪ Arrangements should be made to serve any of the anointed who are infirm and unable to be present.
▪ ควร เตรียม การ เพื่อ เสิร์ฟ เครื่องหมาย แก่ ผู้ ถูก เจิม ที่ ทุพพลภาพ ซึ่ง ไม่ สามารถ มา ยัง การ ฉลอง ได้.
Alma 7:11–13 (Jesus Christ took upon Himself our pains, sicknesses, infirmities, and sins)
แอลมา 7:11–13 (พระเยซูคริสต์ทรงรับเอาความเจ็บปวด ความป่วยไข้ ความทุพพลภาพ และบาปของเราไว้กับพระองค์)
To bear another’s burdens includes helping, supporting, and understanding everyone, including the sick, the infirm, the poor in spirit and body, the seeker and the troubled, and also other member-disciples—including Church leaders who have been called by the Lord to serve for a season.
การรับภาระของกันและกันได้แก่การช่วยเหลือ สนับสนุน และเข้าใจทุกคน รวมทั้งคนเจ็บป่วย คนอ่อนแอ คนยากจนในวิญญาณและร่างกาย นักแสวงหาและคนมีทุกข์ ตลอดจนสานุศิษย์สมาชิกคนอื่นๆ—รวมทั้งผู้นําศาสนจักรที่พระเจ้าทรงเรียกให้รับใช้ระยะหนึ่ง

มาเรียนกันเถอะ ภาษาอังกฤษ

ตอนนี้เมื่อคุณรู้ความหมายของ infirmity ใน ภาษาอังกฤษ มากขึ้นแล้ว คุณจะได้เรียนรู้วิธีใช้คำเหล่านี้ผ่านตัวอย่างที่เลือกไว้และวิธี อ่านแล้วอย่าลืมเรียนรู้คำที่เกี่ยวข้องที่เราแนะนำ เว็บไซต์ของเรามีการปรับปรุงคำศัพท์ใหม่ๆ และตัวอย่างใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา เพื่อให้คุณสามารถค้นหาความหมายของคำอื่นๆ ที่คุณไม่ทราบใน ภาษาอังกฤษ

คำที่เกี่ยวข้องของ infirmity

อัปเดตคำของ ภาษาอังกฤษ

คุณรู้จัก ภาษาอังกฤษ ไหม

ภาษาอังกฤษมาจากชนเผ่าดั้งเดิมที่อพยพไปยังอังกฤษและมีวิวัฒนาการมาเป็นเวลากว่า 1,400 ปี ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่พูดมากเป็นอันดับสามของโลก รองจากจีนและสเปน เป็นภาษาที่สองที่มีการเรียนรู้มากที่สุด และภาษาราชการของเกือบ 60 ประเทศอธิปไตย ภาษานี้มีจำนวนผู้พูดเป็นภาษาที่สองและภาษาต่างประเทศมากกว่าเจ้าของภาษา ภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการร่วมของสหประชาชาติ สหภาพยุโรป และภาษาต่างประเทศอื่น ๆ อีกมากมาย และองค์กรระดับภูมิภาค ปัจจุบัน ผู้พูดภาษาอังกฤษทั่วโลกสามารถสื่อสารกันได้อย่างคล่องตัว