primordial ใน ภาษาอังกฤษ หมายถึงอะไร
ความหมายของคำว่า primordial ใน ภาษาอังกฤษ คืออะไร บทความอธิบายความหมายแบบเต็ม การออกเสียงพร้อมกับตัวอย่างสองภาษาและคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีใช้ primordial ใน ภาษาอังกฤษ
คำว่า primordial ใน ภาษาอังกฤษ หมายถึง ดั้งเดิม, แรกเริ่ม หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม โปรดดูรายละเอียดด้านล่าง
ความหมายของคำว่า primordial
ดั้งเดิมadjective |
แรกเริ่มadverb |
ดูตัวอย่างเพิ่มเติม
So the challenge then is, throw away all your pure chemicals in the lab, and try to make some protocells with lifelike properties from this kind of primordial ooze. ฉะนั้น ความท้าทายก็คือ เราต้องโยนสารเคมีบริสุทธิ์ในแลปทิ้งให้หมด แล้วพยายามสร้างโปรโตเซลล์ที่มีลักษณะเหมือนมีชีวิต จากสิ่งที่เป็นสิ่งพื้นฐานลักษณะคล้ายโคลน |
Think of it like a primordial ooze, okay? คิดซะว่ามันเหมือนกับโคลนในยุคแรกๆของโลก |
Someone heard the six hours of talk that I gave called "The Monticello Dialogues" on NPR, and sent me this as a thank you note -- "We realize that design is a signal of intention, but it also has to occur within a world, and we have to understand that world in order to imbue our designs with inherent intelligence, and so as we look back at the basic state of affairs in which we design, we, in a way, need to go to the primordial condition to understand the operating system and the frame conditions of a planet, and I think the exciting part of that is the good news that's there, because the news is the news of abundance, and not the news of limits, and I think as our culture tortures itself now with tyrannies and concerns over limits and fear, we can add this other dimension of abundance that is coherent, driven by the sun, and start to imagine what that would be like to share." ผู้ฟังคนหนึ่งที่ฟังบทบรรยายยาว 6 ชั่วโมงของผม ชื่อ "วิวาทะมอนติเชลโล" ที่ออกวิทยุสาธารณะ ส่งคําขอบคุณมาให้ว่า "เราตระหนักว่าการออกแบบเป็นการส่งสัญญาณของเจตนา แต่มันก็จะต้องเกิดขึ้นในโลกจริง และเราก็ต้องเข้าใจโลกนั้นเพื่อจะได้ ปลูกฝังปัญญาให้กับสิ่งที่เราออกแบบ และดังนั้น ขณะที่เรามองย้อนไปที่สถานการณ์พื้นฐาน ที่เรากําลังออกแบบ เราอาจต้องกลับไปที่เงื่อนไขดึกดําบรรพ์ เพื่อเข้าใจระบบปฏิบัติการและกรอบการทํางานของดาวเคราะห์ และผมคิดว่าสิ่งที่น่าตื่นเต้นคือ มันมีข่าวดีอยู่แล้ว นั่นคือเรามีความอุดมสมบูรณ์ ไม่ใช่มีขีดจํากัด และผมคิดว่าขณะที่วัฒนธรรมของเรากําลังทรมานตัวเอง กับระบอบเผด็จการและความกังวลเรื่องขีดจํากัดและความกลัว เราก็เพิ่มเติมมิติของความอุดมสมบูรณ์นี้ได้ ความสมบูรณ์ที่มีเอกภาพ ขับดันด้วยพลังแสงอาทิตย์ และเริ่มจินตนาการ ว่าการแบ่งปันจะมีหน้าตาอย่างไร" |
Think of it like a primordial ooze, okay? ที่จริง พวกมันจะเป็นสิ่งที่ซับซ้อน |
If the cosmos and everything in it are the product of spontaneous combinations of elements after the primordial big bang, then there can be no real purpose to life. ถ้า เอกภพ และ ทุก ๆ สิ่ง ใน เอกภพ เป็น ผล จาก การ รวม ตัว กัน ของ ธาตุ ต่าง ๆ โดย บังเอิญ หลัง การ ระเบิด ใหญ่ ใน ตอน เริ่ม ต้น ดัง นั้น แล้ว ก็ ย่อม ไม่ มี วัตถุ ประสงค์ ที่ แท้ จริง สําหรับ ชีวิต. |
Others postulate a primordial chaos as the preexisting condition. คน อื่น อ้าง ว่า มี ความ ยุ่งเหยิง สับสน อยู่ ใน สภาวะ แรก เริ่ม. |
And soon thereafter there's enough material left over that you get a primordial soup, and that creates life. จนได้เป็น " น้ําซุปแห่งชีวิต " ( ของเหลวที่ประกอบด้วยสารอินทรีย์ ก่อเกิดเป็นสิ่งมีชีวิตแรกในโลก ) |
“Yet,” she continues, “most researchers seem to assume that if they can make sense of the independent production of proteins and RNA under natural primordial conditions, the coordination will somehow take care of itself.” เธอ กล่าว ต่อ ว่า “แต่ นัก วิจัย ส่วน ใหญ่ ดู เหมือน คิด ว่า ถ้า พวก เขา เข้าใจ ว่า โปรตีน กับ อาร์เอ็นเอ เกิด ขึ้น เอง โดย ไม่ ต้อง พึ่ง อาศัย กัน ได้ อย่าง ไร ใน สภาวะ ตาม ธรรมชาติ ยุค แรก เริ่ม พวก เขา ก็ จะ รู้ ได้ ไม่ ยาก ว่า การ ทํา งาน ประสาน กัน เช่น นั้น จะ เกิด ขึ้น ได้ โดย วิธี ใด.” |
The New York Times of March 8, 1998, reported that about 1965 “the astronomers Arno Penzias and Robert Wilson discovered the ubiquitous background radiation, the left-over flash of the primordial explosion.” หนังสือ พิมพ์ เดอะ นิวยอร์ก ไทมส์ ฉบับ 8 มีนาคม 1998 รายงาน ว่า ราว ๆ ปี 1965 “นัก ดาราศาสตร์ อาร์โน เพนเซียส และ โรเบิร์ต วิลสัน ค้น พบ ว่า การ แผ่ รังสี ใน อวกาศ มี อยู่ ทั่ว ไป ซึ่ง เป็น แสง วาบ ที่ หลง เหลือ อยู่ จาก การ ระเบิด ครั้ง แรก.” |
One author noted: “Many civilizations believed in a primordial paradise that was characterized by perfection, freedom, peace, happiness, abundance, and the absence of duress, tensions, and conflicts. . . . นัก เขียน คน หนึ่ง ให้ ข้อ สังเกต ว่า “หลาย อารยธรรม เชื่อ ว่า มี อุทยาน ใน ยุค แรก ซึ่ง เป็น สถาน ที่ ที่ สมบูรณ์ พร้อม, มี อิสระ เสรี, สันติ สุข, ความ สุข และ ความ อุดม สมบูรณ์ อีก ทั้ง ไม่ มี การ ข่มขู่ คุกคาม, ความ ตึงเครียด และ ความ ขัด แย้ง. . . . |
And soon thereafter there's enough material left over that you get a primordial soup, and that creates life. และไม่นานหลังจากนั้น มันมีวัตถุธาตุเหลืออยู่เพียงพอ จนได้เป็น "น้ําซุปแห่งชีวิต" (ของเหลวที่ประกอบด้วยสารอินทรีย์ ก่อเกิดเป็นสิ่งมีชีวิตแรกในโลก) และนั่นก็ก่อกําเนิดชีวิตขึ้นมา |
The LHC creates the primordial explosions, then four enormous detectors along the accelerator ring take pictures of the collisions. เอลแอชสี สร้างระเบิดดั่งเดิม จากนั้นสี่เครื่องตรวจจับมหา ศาลพร้อมแหวนคันเร่ง ถ่ายภาพของการชนกัน |
And I will conclude by saying any understanding of human relationships must take into account one the most powerful determinants of human behavior: the unquenchable, adaptable and primordial human drive to love. และฉันจะสรุป โดยกล่าวว่า การจะเข้าใจในความสัมพันธ์ใด ๆ ต้องคํานึงถึง หนึ่งในพฤติกรรมที่ทรงพลังของมนุษย์ คือ ความกระหาย ความสามารถในการปรับตัว และแรงขับเคลื่อนเพื่อไขว่คว้าความรัก |
I was born of primordial ooze. ฉันเกิดมาจากกองเลือด |
มาเรียนกันเถอะ ภาษาอังกฤษ
ตอนนี้เมื่อคุณรู้ความหมายของ primordial ใน ภาษาอังกฤษ มากขึ้นแล้ว คุณจะได้เรียนรู้วิธีใช้คำเหล่านี้ผ่านตัวอย่างที่เลือกไว้และวิธี อ่านแล้วอย่าลืมเรียนรู้คำที่เกี่ยวข้องที่เราแนะนำ เว็บไซต์ของเรามีการปรับปรุงคำศัพท์ใหม่ๆ และตัวอย่างใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา เพื่อให้คุณสามารถค้นหาความหมายของคำอื่นๆ ที่คุณไม่ทราบใน ภาษาอังกฤษ
คำที่เกี่ยวข้องของ primordial
อัปเดตคำของ ภาษาอังกฤษ
คุณรู้จัก ภาษาอังกฤษ ไหม
ภาษาอังกฤษมาจากชนเผ่าดั้งเดิมที่อพยพไปยังอังกฤษและมีวิวัฒนาการมาเป็นเวลากว่า 1,400 ปี ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่พูดมากเป็นอันดับสามของโลก รองจากจีนและสเปน เป็นภาษาที่สองที่มีการเรียนรู้มากที่สุด และภาษาราชการของเกือบ 60 ประเทศอธิปไตย ภาษานี้มีจำนวนผู้พูดเป็นภาษาที่สองและภาษาต่างประเทศมากกว่าเจ้าของภาษา ภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการร่วมของสหประชาชาติ สหภาพยุโรป และภาษาต่างประเทศอื่น ๆ อีกมากมาย และองค์กรระดับภูมิภาค ปัจจุบัน ผู้พูดภาษาอังกฤษทั่วโลกสามารถสื่อสารกันได้อย่างคล่องตัว