rend ใน ภาษาอังกฤษ หมายถึงอะไร

ความหมายของคำว่า rend ใน ภาษาอังกฤษ คืออะไร บทความอธิบายความหมายแบบเต็ม การออกเสียงพร้อมกับตัวอย่างสองภาษาและคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีใช้ rend ใน ภาษาอังกฤษ

คำว่า rend ใน ภาษาอังกฤษ หมายถึง ฉีก, ทําให้ขาด, แยก หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม โปรดดูรายละเอียดด้านล่าง

ฟังการออกเสียง

ความหมายของคำว่า rend

ฉีก

verb

ทําให้ขาด

verb

แยก

verb

ดูตัวอย่างเพิ่มเติม

16 And it came to pass that when it was night they were weary, and retired to their camps; and after they had retired to their camps they took up a howling and a alamentation for the loss of the slain of their people; and so great were their cries, their howlings and lamentations, that they did rend the air exceedingly.
๑๖ และเหตุการณ์ได้บังเกิดขึ้นคือเมื่อถึงเวลากลางคืนพวกเขาเหน็ดเหนื่อย, และกลับไปค่ายของตน; และหลังจากพวกเขาได้กลับไปค่ายของตนแล้วพวกเขาเริ่มรําพันและคร่ําครวญเพราะการสูญเสียผู้คนของพวกเขาที่ถูกสังหาร; และเสียงร้องของพวกเขา, เสียงพิลาปรําพันและการร่ําไห้ของพวกเขา, ระเบ็งเซ็งแซ่อื้ออึงอยู่ในอากาศ.
And the crocks of the earth must rend; and because of the dgroanings of the earth, many of the kings of the isles of the sea shall be wrought upon by the Spirit of God, to exclaim: The God of nature suffers.
และศิลาคของแผ่นดินโลกต้องแยกออก; และเพราะเสียงครวญครางของแผ่นดินโลก, พระวิญญาณของพระผู้เป็นเจ้าจะทรงกระทําแก่กษัตริย์จํานวนมากของเกาะในทะเล, เพื่อเป็นการร้องว่า : พระผู้เป็นเจ้าแห่งธรรมชาติทรงรับทุกขเวทนา.
* What did Moroni counsel us to do in order to “rend that veil of unbelief”?
* โมโรไนแนะนําให้เราทําอะไรเพื่อ “ฉีกม่านความไม่เชื่อ”
I shall rend his head from his shoulders!
ฉันจะดึงหัวมันออกมาจากบ่าให้ได้
21 And it came to pass that when Moroni had proclaimed these words, behold, the people came running atogether with their armor girded about their loins, brending their garments in token, or as a ccovenant, that they would not forsake the Lord their God; or, in other words, if they should transgress the commandments of God, or fall into transgression, and be dashamed to take upon them the name of Christ, the Lord should rend them even as they had rent their garments.
๒๑ และเหตุการณ์ได้บังเกิดขึ้นคือเมื่อโมโรไนประกาศถ้อยคําเหล่านี้, ดูเถิด, ผู้คนพากันวิ่งมาพร้อมด้วยยุทธภัณฑ์คาดไว้รอบเอวของตน, โดยฉีกอาภรณ์ของพวกเขาออกเป็นหมายสําคัญ, หรือเป็นพันธสัญญา, ว่าพวกเขาจะไม่ทิ้งพระเจ้าพระผู้เป็นเจ้าของตน; หรืออีกนัยหนึ่ง, หากพวกเขาล่วงละเมิดพระบัญญัติของพระผู้เป็นเจ้า, หรือตกไปสู่การล่วงละเมิด, และละอายกที่จะยอมรับพระนามของพระคริสต์แล้ว, พระเจ้าจะทรงฉีกพวกเขาแม้ดังที่พวกเขาฉีกอาภรณ์ของตน.
The other dived down the hole, and I heard the sound of rending cloth as Jones clutched at his skirts.
อื่น ๆ dived ลงหลุมและฉันได้ยินเสียงของผ้า rending เป็นโจนส์ clutched ที่กระโปรงของเขา
A report from India Today carrying the headline “Cult of Anarchy” states: “A disturbing development threatening to rend asunder the delicate moral and social weave that knits the country together is the elevation of violence, defiant indiscipline, and lawlessness to a cult.”
รายงาน หนึ่ง จาก วารสาร อินเดีย ทูเดย์ ซึ่ง มี พาด หัว ข่าว ว่า “การ บูชา อนาธิปไตย” แถลง ว่า “เหตุ การณ์ ยุ่งเหยิง อัน ส่อ เค้า ว่า จะ ทํา ให้ สาย ใย ที่ ละเอียดอ่อน ทาง ด้าน ศีลธรรม และ สังคม ซึ่ง ผนึก ประเทศ เข้า ด้วย กัน นั้น ขาด สะบั้น ลง ก็ คือ การ ยก ความ รุนแรง การ ขาด ระเบียบ วินัย อย่าง ไม่ กลัว เกรง และ การ ละเลย กฎหมาย ขึ้น จน แทบ จะ เป็น ศาสนา.”
15 Behold, when ye shall rend that veil of unbelief which doth cause you to remain in your awful state of wickedness, and hardness of heart, and blindness of mind, then shall the great and marvelous things which have been ahid up from the foundation of the world from you—yea, when ye shall bcall upon the Father in my name, with a broken heart and a contrite spirit, then shall ye know that the Father hath remembered the covenant which he made unto your fathers, O house of Israel.
๑๕ ดูเถิด, เมื่อเจ้าจะฉีกม่านความไม่เชื่อนั้นซึ่งทําให้เจ้าคงอยู่ในสภาพอันน่าพรั่นพรึงของความชั่วร้าย, และความแข็งกระด้างของใจ, และความมืดบอดของจิตใจ, เมื่อนั้นสิ่งสําคัญยิ่งและน่าอัศจรรย์ซึ่งซ่อนกให้พ้นเจ้านับจากการวางรากฐานของโลก—แท้จริงแล้ว, เมื่อเจ้าจะเรียกหาพระบิดาในนามของเรา, ด้วยใจที่ชอกช้ําและวิญญาณที่สํานึกผิด, เมื่อนั้นเจ้าจะรู้ว่าพระบิดาทรงระลึกถึงพันธสัญญาซึ่งพระองค์ทรงทํากับบรรพบุรุษเจ้า, โอ้เชื้อสายแห่งอิสราเอล.
11 For the world cannot receive that which ye, yourselves, are not able to bear; wherefore ye shall not give your pearls unto them, lest they turn again and rend you.
๑๑ เพราะโลกไม่สามารถรับสิ่งซึ่งเจ้า, ตัวเจ้าเอง, ไม่อาจทนรับได้; ด้วยเหตุนี้เจ้าไม่พึงให้ไข่มุกของเจ้าแก่พวกเขา, หาไม่แล้วพวกเขาจะหันกลับมาฉีกเนื้อเจ้า.
(John 5:36) Rather than any revealed chronology, Jesus’ preaching, his miracles, and the events surrounding his death (the miraculous darkness, the rending of the temple curtain, and the earthquake) testified that he was the Messiah sent by God.—Matthew 27:45, 51, 54; John 7:31; Acts 2:22.
(โยฮัน 5:36) แทน ที่ จะ อาศัย การ ลําดับ เวลา ที่ มี การ เปิด เผย ให้ แต่ กลับ เป็น การ ประกาศ ของ พระ เยซู, การ อัศจรรย์, และ เหตุ การณ์ ที่ เกิด ขึ้น ใน ช่วง ที่ พระองค์ สิ้น พระ ชนม์ (ความ มืด อัน เป็น การ อัศจรรย์, ผ้า ม่าน พระ วิหาร ขาด เป็น สอง ท่อน, และ แผ่นดิน ไหว) นั้น ต่าง หาก ที่ พิสูจน์ ว่า พระองค์ เป็น พระ มาซีฮา ที่ พระเจ้า ทรง ส่ง มา.—มัดธาย 27:45, 51, 54; โยฮัน 7:31; กิจการ 2:22.
17 And it came to pass that on the morrow they did go again to battle, and great and terrible was that day; nevertheless, they conquered not, and when the night came again they did rend the air with their cries, and their howlings, and their mournings, for the loss of the slain of their people.
๑๗ และเหตุการณ์ได้บังเกิดขึ้นคือในวันพรุ่งพวกเขาออกสู้รบกันอีก, และวันนั้นยิ่งใหญ่และน่าสะพรึงกลัว; กระนั้นก็ตาม, พวกเขาหามีชัยชนะต่อกันไม่, และเมื่อถึงเวลากลางคืนอีกพวกเขาทําให้อากาศอึงอลด้วยเสียงร้องของพวกเขา, และเสียงพิลาปรําพันของพวกเขา, และความโศกเศร้าของพวกเขา, เพราะการสูญเสียผู้คนของพวกเขาที่ถูกสังหาร.
6 Give not that which is aholy unto the dogs, neither cast ye your pearls before swine, lest they trample them under their feet, and turn again and rend you.
๖ อย่าให้สิ่งที่ศักดิ์สิทธิ์กแก่สุนัข, ทั้งอย่าโยนไข่มุกของเจ้าให้สุกร, เกลือกมันจะเหยียบย่ําไว้ใต้เท้า, และหันกลับมาอีกและทําร้ายเจ้า.
Samuel predicts light during the night and a new star at Christ’s birth—Christ redeems men from temporal and spiritual death—The signs of His death include three days of darkness, the rending of the rocks, and great upheavals of nature.
แซมิวเอลพยากรณ์ถึงแสงสว่างในเวลากลางคืนและดาวดวงใหม่ขณะพระคริสต์ประสูติ—พระคริสต์ทรงไถ่มนุษย์จากความตายทางโลกและทางวิญญาณ—เครื่องหมายแห่งการสิ้นพระชนม์ของพระองค์รวมถึงเวลาสามวันแห่งความมืด, การแตกของศิลา, และความปั่นป่วนใหญ่หลวงของธรรมชาติ.
And it was in the morning, and the adarkness dispersed from off the face of the land, and the earth did cease to tremble, and the brocks did cease to rend, and the dreadful groanings did cease, and all the tumultuous noises did pass away.
และมันเป็นเวลาเช้า, และความมืดกกระจายไปจากผืนแผ่นดิน, และแผ่นดินโลกหยุดสั่นสะเทือน, และศิลาหยุดแยก, และเสียงครวญครางอันน่าพรั่นพรึงได้ยุติลง, และเสียงกึกก้องทั้งหมดสงบลง.
39 And thus they did obtain the sole management of the government, insomuch that they did trample under their feet and smite and rend and turn their backs upon the apoor and the meek, and the humble followers of God.
๓๙ และดังนี้พวกเขาจึงได้เป็นฝ่ายจัดการในการปกครองแต่ฝ่ายเดียว, ถึงขนาดที่พวกเขาเหยียบย่ําไว้ใต้เท้าและโบยตีและทําร้ายและหันหลังให้ผู้ที่ยากจนกและผู้ที่อ่อนโยน, และผู้ติดตามที่ถ่อมตนของพระผู้เป็นเจ้า.

มาเรียนกันเถอะ ภาษาอังกฤษ

ตอนนี้เมื่อคุณรู้ความหมายของ rend ใน ภาษาอังกฤษ มากขึ้นแล้ว คุณจะได้เรียนรู้วิธีใช้คำเหล่านี้ผ่านตัวอย่างที่เลือกไว้และวิธี อ่านแล้วอย่าลืมเรียนรู้คำที่เกี่ยวข้องที่เราแนะนำ เว็บไซต์ของเรามีการปรับปรุงคำศัพท์ใหม่ๆ และตัวอย่างใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา เพื่อให้คุณสามารถค้นหาความหมายของคำอื่นๆ ที่คุณไม่ทราบใน ภาษาอังกฤษ

คำที่เกี่ยวข้องของ rend

อัปเดตคำของ ภาษาอังกฤษ

คุณรู้จัก ภาษาอังกฤษ ไหม

ภาษาอังกฤษมาจากชนเผ่าดั้งเดิมที่อพยพไปยังอังกฤษและมีวิวัฒนาการมาเป็นเวลากว่า 1,400 ปี ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่พูดมากเป็นอันดับสามของโลก รองจากจีนและสเปน เป็นภาษาที่สองที่มีการเรียนรู้มากที่สุด และภาษาราชการของเกือบ 60 ประเทศอธิปไตย ภาษานี้มีจำนวนผู้พูดเป็นภาษาที่สองและภาษาต่างประเทศมากกว่าเจ้าของภาษา ภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการร่วมของสหประชาชาติ สหภาพยุโรป และภาษาต่างประเทศอื่น ๆ อีกมากมาย และองค์กรระดับภูมิภาค ปัจจุบัน ผู้พูดภาษาอังกฤษทั่วโลกสามารถสื่อสารกันได้อย่างคล่องตัว