entreat ใน ภาษาอังกฤษ หมายถึงอะไร

ความหมายของคำว่า entreat ใน ภาษาอังกฤษ คืออะไร บทความอธิบายความหมายแบบเต็ม การออกเสียงพร้อมกับตัวอย่างสองภาษาและคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีใช้ entreat ใน ภาษาอังกฤษ

คำว่า entreat ใน ภาษาอังกฤษ หมายถึง วิงวอน, ร้องขอ, ขอร้อง หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม โปรดดูรายละเอียดด้านล่าง

ฟังการออกเสียง

ความหมายของคำว่า entreat

วิงวอน

verb (To treat, or conduct toward; to deal with; to use)

We entreat you to consider these questions prayerfully.
เราวิงวอนให้คุณพิจารณาคําถามดังกล่าวพร้อมด้วยการอธิษฐาน.

ร้องขอ

verb (To treat, or conduct toward; to deal with; to use)

ขอร้อง

verb

ดูตัวอย่างเพิ่มเติม

The invitation was much like the one presented by God to the apostle Paul, who saw in vision a man entreating him: “Step over into Macedonia and help us.”
คํา เชิญ นั้น คล้าย กับ คํา เชิญ ที่ พระเจ้า เสนอ แก่ อัครสาวก เปาโล มาก ที เดียว ผู้ ซึ่ง เห็น ใน นิมิต ว่า มี คน หนึ่ง วิงวอน ท่าน ดัง นี้: “ขอ โปรด มา ช่วย พวก ข้าพเจ้า ใน เมือง มากะโดเนีย เถิด.”
“I three times entreated the Lord that it might depart from me,” he wrote.
ท่าน เขียน ว่า “ข้าพเจ้า ได้ อธิษฐาน องค์ พระ ผู้ เป็น เจ้า ถึง สาม ครั้ง ให้ มัน หลุด ออก ไป จาก ข้าพเจ้า.”
Rather, Timothy was to “entreat him as a father” and “older women as mothers.”
แทน ที่ จะ ทํา อย่าง นั้น ติโมเธียว ต้อง “ขอร้อง เขา เหมือน เป็น บิดา” และ “ขอร้อง หญิง สูง อายุ เหมือน เป็น มารดา.”
We entreat you to consider these questions prayerfully.
เรา วิงวอน ให้ คุณ พิจารณา คํา ถาม ดัง กล่าว พร้อม ด้วย การ อธิษฐาน.
And he kept praying to Him, so that He let himself be entreated by him and He heard his request for favor and restored him to Jerusalem to his kingship.”
เมื่อ ท่าน ได้ กราบ ทูล ขอ นั้น พระองค์ ได้ ทรง โปรด สดับ ฟัง คํา อ้อน วอน, ทรง บันดาล ให้ ท่าน กลับ มา ยัง กรุง ยะรูซาเลม ยัง แผ่นดิน ของ ท่าน.”
FRlAR My leisure serves me, pensive daughter, now. -- My lord, we must entreat the time alone.
นักบวชที่เดินทางมาพักผ่อนทําหน้าที่ของฉันฉันลูกสาวหม่นตอนนี้. -- พระเจ้าของฉันเราจะต้องอาราธนาเวลาที่อยู่คนเดียว
The apostle Paul wrote: “We also entreat you not to accept the undeserved kindness of God and miss its purpose.”
อัครสาวก เปาโล เขียน ดัง นี้: “เรา จึง วิงวอน ท่าน ทั้ง หลาย อีก ว่า อย่า รับ พระ กรุณา อัน ใหญ่ หลวง ของ พระเจ้า แล้ว พลาด จุด มุ่ง หมาย ของ พระ กรุณา นั้น.”
Undoubtedly, most Christians in Corinth were drawn to Paul because he entreated them “by the mildness and kindness of the Christ.”
โดย ไม่ สงสัย คริสเตียน ส่วน ใหญ่ ใน เมือง โกรินโธ นิยม ชม ชอบ เปาโล เพราะ ท่าน ได้ ปฏิบัติ ต่อ พวก เขา “โดย ความ อ่อนโยน และ กรุณา ของ พระ คริสต์.”
In a powerful exhortation uttered before his death, Joshua entreated the whole nation: “Now if it is bad in your eyes to serve Jehovah, choose for yourselves today whom you will serve, whether the gods that your forefathers who were on the other side of the River served or the gods of the Amorites in whose land you are dwelling.”
ใน คํา กระตุ้น เตือน ที่ มี พลัง ซึ่ง กล่าว ก่อน ที่ ท่าน จะ เสีย ชีวิต ยะโฮซูอะ วิงวอน ชน ทั้ง ชาติ ว่า “ถ้า ท่าน ไม่ เต็ม ใจ ที่ จะ ปรนนิบัติ [พระ ยะโฮวา] ท่าน ทั้ง หลาย จง เลือก เสีย ใน วัน นี้ ว่า ท่าน จะ ปรนนิบัติ ผู้ ใด จะ ปรนนิบัติ พระ ซึ่ง บรรพบุรุษ ของ ท่าน ปรนนิบัติ อยู่ ใน ท้องถิ่น ฟาก ตะวัน ออก ของ แม่น้ํา ยูเฟรติส หรือ พระ ของ คน อาโมไรต์ ใน แผ่นดิน ซึ่ง ท่าน อาศัย อยู่.”
But instead of promoting social reform on a broad scale, Jesus entreated individuals to repent and abandon their corrupt ways.
แต่ แทน ที่ จะ ส่ง เสริม การ ปฏิรูป ทาง สังคม อย่าง กว้างขวาง พระ เยซู ได้ อ้อน วอน ปัจเจกบุคคล ให้ กลับ ใจ และ ละ ทิ้ง แนว ทาง ทุจริต.
Bear in mind Paul’s words: “I entreat you by the compassions of God, brothers, to present your bodies a sacrifice living, holy, acceptable to God, a sacred service with your power of reason.
ขอ ให้ จํา คํา กล่าว ของ เปาโล เอา ไว้ ที่ ว่า “พี่ น้อง ทั้ง หลาย อาศัย ความ เมตตา สงสาร ของ พระเจ้า ข้าพเจ้า วิงวอน ท่าน ทั้ง หลาย ให้ ถวาย ร่าง กาย ของ ท่าน เป็น เครื่อง บูชา อัน มี ชีวิต อยู่, บริสุทธิ์, ที่ พระเจ้า ทรง ยอม รับ ได้, เป็น การ รับใช้ อัน ศักดิ์สิทธิ์ พร้อม ด้วย ความ สามารถ ของ ท่าน ใน การ หา เหตุ ผล.
When Paul said: “I entreat you, therefore, become imitators of me,” we can be sure that many willingly responded because of his fine example. —1 Cor.
เมื่อ เปาโล กล่าว ว่า “ดัง นั้น ข้าพเจ้า ขอ ให้ พวก ท่าน เลียน แบบ ข้าพเจ้า” เรา จึง แน่ ใจ ได้ ว่า หลาย คน คง เต็ม ใจ เลียน แบบ ท่าน เพราะ ท่าน วาง ตัว อย่าง ที่ ดี.—1 โค.
Understandably, Paul entreated his dear friend Timothy: “O Timothy, guard what is laid up in trust with you, turning away from the empty speeches that violate what is holy and from the contradictions of the falsely called ‘knowledge.’
จึง เป็น เรื่อง เข้าใจ ได้ ที่ เปาโล วิงวอน ติโมเธียว สหาย ที่ รัก ของ ท่าน ว่า “ติโมเธียว เอ๋ย, ซึ่ง เรา ฝาก ไว้ กับ ท่าน นั้น จง เฝ้า รักษา, และ จง หลีก ไป เสีย จาก การ เถียง กัน นอก คอก นอก ทาง [“การ พูด ที่ ไร้ สาระ ซึ่ง ละเมิด สิ่ง บริสุทธิ์,” ล.
He said: “Really on this account I entreated to see and speak to you, for because of the hope of Israel this chain I have around me.”
ท่าน กล่าว ว่า “ที่ จริง ด้วย เหตุ นี้ แหละ ที่ ข้าพเจ้า ขอ พบ และ พูด กับ พวก ท่าน เพราะ ที่ ข้าพเจ้า ถูก ล่าม โซ่ ก็ เนื่อง จาก ความ หวัง ของ ชาติ อิสราเอล.” (กิจ.
(Proverbs 31:10-12, 28) Single women too have a dignified place in God’s arrangement, and Christian men are admonished to “entreat . . . older women as mothers, younger women as sisters with all chasteness.” —1 Timothy 5:1, 2.
(สุภาษิต 31:10-12, 28) ผู้ หญิง โสด ก็ อยู่ ใน ฐานะ อัน มี เกียรติ ใน การ จัด เตรียม ของ พระเจ้า เช่น กัน และ ชาย คริสเตียน ก็ ได้ รับ คํา เตือน ให้ “อ้อน วอน . . . ผู้ หญิง สูง อายุ เหมือน เป็น มารดา ผู้ หญิง อ่อน วัย กว่า นั้น เป็น พี่ สาว น้อง สาว ด้วย ความ บริสุทธิ์ ทั้ง สิ้น.”—1 ติโมเธียว 5:1, 2, ล. ม.
He entreated his fellow Christians “by the compassions of God” and “on the basis of love” rather than by the weight of his apostolic authority.
ท่าน วิงวอน เพื่อน คริสเตียน โดย “อาศัย ความ เมตตา สงสาร ของ พระเจ้า” และ “เพราะ เห็น แก่ ความ รัก” ยิ่ง กว่า จะ อาศัย อิทธิพล แห่ง อํานาจ อัครสาวก ของ ท่าน. (โรม 12:1, 2, ล.
The apostle Paul entreated fellow anointed Christians to walk worthily of their heavenly calling, doing so “with complete lowliness of mind and mildness, with long-suffering, putting up with one another in love, earnestly endeavoring to observe the oneness of the spirit in the uniting bond of peace.”
อัครสาวก เปาโล ขอร้อง เพื่อน คริสเตียน ผู้ ถูก เจิม ให้ ดําเนิน ชีวิต อย่าง เหมาะ สม คู่ ควร กับ การ ทรง เรียก สําหรับ ภาค สวรรค์ กระทํา ด้วย “ใจ ถ่อม ลง ทุก อย่าง ด้วย ใจ อ่อน สุภาพ ด้วย อด กลั้น ใจ และ ผ่อน หนัก ผ่อน เบา ซึ่ง กัน และ กัน ด้วย ความ รัก. จง เพียร พยายาม เอา สันติ สุข ผูก มัด ความ เป็น น้ํา หนึ่ง ใจ เดียว กัน ซึ่ง พระ วิญญาณ ทรง ประทาน ให้ นั้น.”
It entreated the Father to “restrain these immoderate rains” and “grant us fair weather for battle” that the U.S. Army might “crush the oppression and wickedness of our enemies, and establish Thy justice among men and nations.”
คํา อธิษฐาน ทูล ขอ พระ บิดา องค์ ทรง มหิทธิฤทธิ์ ให้ “ยับยั้ง ฝน ที่ กําลัง ตก ลง มา อย่าง หนัก” และ “ให้ อากาศ แจ่ม ใส เป็น ประโยชน์ ต่อ การ สู้ รบ” เพื่อ ทหาร สหรัฐ จะ “บดขยี้ ผู้ กดขี่ และ ความ ชั่ว ร้าย ของ ศัตรู และ สถาปนา ความ ยุติธรรม ของ พระองค์ ท่ามกลาง มนุษย์ และ นานา ชาติ.”
“In this behalf I three times entreated the Lord that it might depart from me.”
“ข้าพเจ้า ได้ ทูล วิงวอน องค์ พระ ผู้ เป็น เจ้า สาม ครั้ง เพื่อ ให้ หนาม นี้ หลุด ไป จาก ข้าพเจ้า.”
Let us, then, never neglect the reminder Paul gave to the Christians in Ephesus: “I, therefore, the prisoner in the Lord, entreat you to walk worthily of the calling with which you were called, with complete lowliness of mind and mildness.” —Ephesians 4:1, 2.
ด้วย เหตุ นั้น อย่า ให้ เรา เพิกเฉย คํา เตือน ที่ เปาโล ให้ กับ คริสเตียน ใน เอเฟโซส ที่ ว่า “ฉะนั้น ข้าพเจ้า ผู้ ถูก จําจอง เนื่อง ด้วย องค์ พระ ผู้ เป็น เจ้า ขอ วิงวอน ท่าน ทั้ง หลาย ให้ ดําเนิน อย่าง คู่ ควร กับ การ ทรง เรียก ซึ่ง ท่าน ทั้ง หลาย ได้ รับ ด้วย ความ ถ่อม ใจ และ ความ อ่อนโยน อย่าง ยิ่ง.”—เอเฟโซ 4:1, 2, ล. ม.
Thus, mature Christians appeal to the hearts of their brothers, entreating them, as did the apostle Paul.
ด้วย เหตุ นี้ คริสเตียน ที่ อาวุโส จึง พยายาม เข้า ถึง หัวใจ ของ พวก พี่ น้อง ของ เขา วิงวอน พวก เขา ดัง ที่ อัครสาวก เปาโล ได้ ทํา.
10:20) He later entreated the congregation in Ephesus to make supplication for him that “ability to speak” might be given him. —Eph.
10:20) ใน เวลา ต่อ มา ท่าน ขอ พี่ น้อง ใน ประชาคม เอเฟโซส์ ให้ วิงวอน ขอ ต่อ พระเจ้า เพื่อ ช่วย ให้ ท่าน “พูด ได้.”—เอเฟ.
(Matthew 28:19, 20; Mark 13:10) Right now is the period for us to take to heart the exhortation: “Working together with him, we also entreat you not to accept the undeserved kindness of God and miss its purpose.
(มัดธาย 28:19, 20; มาระโก 13:10) เดี๋ยว นี้ แหละ เป็น ช่วง เวลา ที่ เรา จะ จด จํา คํา กระตุ้น เตือน นี้ ให้ ขึ้น ใจ: “ร่วม งาน กับ พระองค์ เรา วิงวอน ท่าน ทั้ง หลาย เช่น กัน ว่า อย่า รับ เอา พระ กรุณา อัน ไม่ พึง ได้ รับ ของ พระเจ้า แล้ว พลาด จุด มุ่ง หมาย ของ พระ กรุณา นั้น.
So wrote the psalmist David, entreating his God to look upon his deep distress.
กษัตริย์ ดาวิด ผู้ ประพันธ์ บท เพลง สรรเสริญ เขียน ไว้ เช่น นั้น เพื่อ วิงวอน พระเจ้า ให้ เพ่ง ดู ความ ทุกข์ แสนเข็ญ ของ ท่าน.
* Notice, though, how Jesus responded to the leper: “There also came to him a leper, entreating him even on bended knee, saying to him: ‘If you just want to, you can make me clean.’
* แต่ ขอ สังเกต ว่า พระ เยซู ทรง ตอบรับ อย่าง ไร ต่อ คน ที่ เป็น โรค เรื้อน: “มี คน โรค เรื้อน คน หนึ่ง มา หา พระองค์ ถึง กับ คุกเข่า ลง วิงวอน ทูล พระองค์ ว่า ‘เพียง พระองค์ ต้องการ พระองค์ ก็ จะ ทํา ให้ ข้าพเจ้า สะอาด ได้.’

มาเรียนกันเถอะ ภาษาอังกฤษ

ตอนนี้เมื่อคุณรู้ความหมายของ entreat ใน ภาษาอังกฤษ มากขึ้นแล้ว คุณจะได้เรียนรู้วิธีใช้คำเหล่านี้ผ่านตัวอย่างที่เลือกไว้และวิธี อ่านแล้วอย่าลืมเรียนรู้คำที่เกี่ยวข้องที่เราแนะนำ เว็บไซต์ของเรามีการปรับปรุงคำศัพท์ใหม่ๆ และตัวอย่างใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา เพื่อให้คุณสามารถค้นหาความหมายของคำอื่นๆ ที่คุณไม่ทราบใน ภาษาอังกฤษ

อัปเดตคำของ ภาษาอังกฤษ

คุณรู้จัก ภาษาอังกฤษ ไหม

ภาษาอังกฤษมาจากชนเผ่าดั้งเดิมที่อพยพไปยังอังกฤษและมีวิวัฒนาการมาเป็นเวลากว่า 1,400 ปี ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่พูดมากเป็นอันดับสามของโลก รองจากจีนและสเปน เป็นภาษาที่สองที่มีการเรียนรู้มากที่สุด และภาษาราชการของเกือบ 60 ประเทศอธิปไตย ภาษานี้มีจำนวนผู้พูดเป็นภาษาที่สองและภาษาต่างประเทศมากกว่าเจ้าของภาษา ภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการร่วมของสหประชาชาติ สหภาพยุโรป และภาษาต่างประเทศอื่น ๆ อีกมากมาย และองค์กรระดับภูมิภาค ปัจจุบัน ผู้พูดภาษาอังกฤษทั่วโลกสามารถสื่อสารกันได้อย่างคล่องตัว