puffed ใน ภาษาอังกฤษ หมายถึงอะไร

ความหมายของคำว่า puffed ใน ภาษาอังกฤษ คืออะไร บทความอธิบายความหมายแบบเต็ม การออกเสียงพร้อมกับตัวอย่างสองภาษาและคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีใช้ puffed ใน ภาษาอังกฤษ

คำว่า puffed ใน ภาษาอังกฤษ หมายถึง ซึ่งพองบวม, บวม, หอบ, การหายใจ, ทําให้เกิดความภาคภูิมิใจ หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม โปรดดูรายละเอียดด้านล่าง

ฟังการออกเสียง

ความหมายของคำว่า puffed

ซึ่งพองบวม

บวม

หอบ

การหายใจ

ทําให้เกิดความภาคภูิมิใจ

ดูตัวอย่างเพิ่มเติม

The portly client puffed out his chest with an appearance of some little pride and pulled a dirty and wrinkled newspaper from the inside pocket of his greatcoat.
ความเชื่อที่ไม่ซ้ํากัน. " ลูกค้าที่สง่าป่องออกหน้าอกของเขามีลักษณะของความภาคภูมิใจเล็ก ๆ น้อย ๆ บางอย่างและ ดึงหนังสือพิมพ์ที่สกปรกและรอยย่นจากกระเป๋าด้านในของเสื้อคลุมของเขา
The man that does not assent to healthful words is puffed up with pride and is mentally diseased over questionings, leading to violent disputes over trifles.
ผู้ ที่ ไม่ เห็น ด้วย กับ ถ้อย คํา ที่ เป็น ประโยชน์ ต่อ สุขภาพ เป็น คน อวด ทะนง ตัว และ จิตใจ เสื่อม ด้วย การ ซัก ถาม ซึ่ง ทํา ให้ เกิด ความ ขัด แย้ง รุนแรง ด้วย เรื่อง เล็ก ๆ น้อย ๆ.
42 And whoso aknocketh, to him will he open; and the bwise, and the learned, and they that are rich, who are puffed up because of their clearning, and their dwisdom, and their riches—yea, they are they whom he despiseth; and save they shall cast these things away, and consider themselves efools before God, and come down in the depths of fhumility, he will not open unto them.
๔๒ และผู้ใดเคาะ, ผู้นั้นพระองค์จะทรงเปิดให้เขา; และผู้มีปัญญาก, และผู้คงแก่เรียน, และคนร่ํารวย, ซึ่งผยองขเพราะความรู้ของตน, และปัญญาของตน, และความมั่งคั่งของตน—แท้จริงแล้ว, พวกเขาคือผู้ที่พระองค์ทรงเกลียดชัง; และเว้นแต่พวกเขาจะทิ้งสิ่งเหล่านี้ไป, และพิจารณาตนเป็นคนโง่คต่อพระพักตร์พระผู้เป็นเจ้า, และลงมาสู่ห้วงลึกแห่งความถ่อมตนง, พระองค์จะไม่ทรงเปิดให้พวกเขา.
He couldn't stop puffing at the effort and had to rest now and then.
เขาไม่สามารถหยุดพองที่ความพยายามและมีการส่วนที่เหลือตอนนี้แล้ว
He wrote that people would be “lovers of themselves, lovers of money, self-assuming, haughty, blasphemers, disobedient to parents, unthankful, disloyal, having no natural affection, not open to any agreement, slanderers, without self-control, fierce, without love of goodness, betrayers, headstrong, puffed up with pride, lovers of pleasures rather than lovers of God.”
ท่าน เขียน ว่า ผู้ คน จะ เป็น “คน รัก ตัว เอง, เป็น คน รัก เงิน, อวด ตัว, จองหอง, เป็น คน หมิ่น ประมาท, ไม่ เชื่อ ฟัง บิดา มารดา, อกตัญญู, ไม่ ภักดี, ไม่ มี ความ รักใคร่ ตาม ธรรมชาติ, ไม่ ยอม ตก ลง กัน, เป็น คน ใส่ ร้าย, ไม่ มี การ ควบคุม ตน เอง, ดุ ร้าย, ไม่ รัก ความ ดี, เป็น คน ทรยศ, หัวดื้อ, เย่อหยิ่ง จองหอง, เป็น คน รัก การ สนุกสนาน แทน ที่ จะ รัก พระเจ้า.”
The Bible explains: “In the last days . . . men will be lovers of themselves, lovers of money, self-assuming, haughty, . . . headstrong, puffed up with pride.”
คัมภีร์ ไบเบิล ชี้ แจง ว่า “ใน สมัย สุด ท้าย . . . คน จะ รัก ตัว เอง รัก เงิน อวดดี เย่อหยิ่ง . . . หัวดื้อ ทะนง ตัว.”
Why did Jesus’ abilities as a teacher never cause him to become puffed up with pride?
เหตุ ใด ความ สามารถ ของ พระ เยซู ใน ฐานะ ครู จึง ไม่ ทํา ให้ พระองค์ พอง ตัว ด้วย ความ หยิ่ง?
(1 Corinthians 8:1) Since a certain kind of knowledge puffed up its possessors, Paul must have meant that love also upbuilds those showing that quality.
(1 โกรินโธ 8:1, ล. ม.) เนื่อง จาก ความ รู้ บาง อย่าง อาจ จะ ทํา ให้ เจ้าของ อวดดี ใน ความ รู้ ที่ ตน มี เปาโล คง ต้อง หมาย ความ ว่า ความ รัก เสริม สร้าง คน ที่ แสดง คุณลักษณะ เช่น นั้น.
For men will be lovers of themselves, lovers of money, self-assuming, haughty, blasphemers, disobedient to parents, unthankful, disloyal, having no natural affection, not open to any agreement, slanderers, without self-control, fierce, without love of goodness, betrayers, headstrong, puffed up with pride, lovers of pleasures rather than lovers of God, having a form of godly devotion but proving false to its power; and from these turn away.” —2 Timothy 3:1-5.
เพราะ ว่า คน จะ รัก ตัว เอง รัก เงิน ทอง อวด ตัว จองหอง เป็น คน หมิ่น ประมาท ไม่ เชื่อ ฟัง บิดา มารดา อกตัญญู ไม่ ภักดี ไม่ มี ความ รัก ตาม ธรรมชาติ ไม่ ยอม ตก ลง กัน เป็น คน ใส่ ร้าย ไม่ มี การ ควบคุม ตัว เอง ดุ ร้าย ไม่ รัก ความ ดี เป็น คน ทรยศ หัวดื้อ พอง ขน ด้วย ความ หยิ่ง เป็น คน รัก การ สนุกสนาน แทน ที่ จะ รัก พระเจ้า มี ความ เลื่อม ใส่ ต่อ พระเจ้า ใน รูป แบบ หนึ่ง แต่ ปฏิเสธ พลัง แห่ง ความ เลื่อมใส นั้น และ จง ผิน หลัง ให้ คน เหล่า นี้.”—2 ติโมเธียว 3:1-5, ล. ม.
If Jehovah wills, Paul himself will come shortly and get to know, not just the speech of those who are puffed up, but their power.
ถ้า เป็น พระทัย ประสงค์ ของ พระ ยะโฮวา เปาโล เอง จะ มา ใน ไม่ ช้า และ จะ ได้ รู้ ไม่ เพียง วาจา ของ คน ที่ พอง ตัว แต่ อํานาจ ของ พวก เขา ด้วย.
For instance, Paul warned Timothy that there could arise someone “puffed up with pride” and “mentally diseased over questionings and debates about words.”
อย่าง เช่น เปาโล เตือน ติโมเธียว ไว้ ว่า จะ มี บาง คน “อวด ทะนง ตน” และ “จิตใจ เสื่อม ด้วย การ ซัก ถาม และ การ โต้ เถียง กัน เรื่อง ถ้อย คํา!”
15 Now the cause of this iniquity of the people was this—aSatan had great bpower, unto the stirring up of the people to do all manner of iniquity, and to the puffing them up with pride, tempting them to seek for power, and authority, and criches, and the vain things of the world.
๑๕ บัดนี้สาเหตุของความชั่วช้าสามานย์นี้ของผู้คนคือดังนี้—ซาตานมีพลังอํานาจยิ่ง, ในการยั่วยุผู้คนให้ทําความชั่วช้าสามานย์นานัปการ, และในการทําให้พวกเขาลําพองด้วยความจองหอง, โดยล่อลวงพวกเขาให้แสวงหาพลังอํานาจ, และสิทธิอํานาจ, และความมั่งคั่ง, และสิ่งไร้ประโยชน์ของโลก.
6 Now, brothers, these things I have applied* to myself and A·polʹlos+ for your good, that through us you may learn the rule: “Do not go beyond the things that are written,” so that you may not be puffed up with pride,+ favoring one against the other.
6 พี่ น้อง ครับ ผม ใช้ ตัว ผม กับ อปอลโล+เป็น ตัว อย่าง เพื่อ พวก คุณ จะ ได้ เรียน รู้ กฎ ที่ ว่า “อย่า เลย ขอบ เขต ที่ เขียน บอก ไว้” พวก คุณ จะ ได้ ไม่ ถือ ดี+ ไม่ ไป ยกย่อง คน หนึ่ง ว่า ดี กว่า อีก คน หนึ่ง 7 ใคร บอก ว่า พวก คุณ วิเศษ กว่า คน อื่น?
For men will be lovers of themselves, lovers of money, self-assuming, haughty, blasphemers, disobedient to parents, unthankful, disloyal, having no natural affection, not open to any agreement, slanderers, without self-control, fierce, without love of goodness, betrayers, headstrong, puffed up with pride, lovers of pleasures rather than lovers of God, having a form of godly devotion but proving false to its power.”
เพราะ ว่า คน จะ รัก ตัว เอง, รัก เงิน ทอง, อวด ตัว, จองหอง, เป็น คน หมิ่น ประมาท, ไม่ เชื่อ ฟัง บิดา มารดา, อกตัญญู, ไม่ ภักดี, ไม่ มี ความ รักใคร่ ตาม ธรรมชาติ, ไม่ ยอม ตก ลง กัน, เป็น คน ใส่ ร้าย, ไม่ มี การ รู้ จัก บังคับ ตน, ดุ ร้าย, ไม่ รัก ความ ดี, เป็น คน ทรยศ, หัวดื้อ, พอง ตัว ด้วย ความ หยิ่ง, เป็น คน รัก การ สนุกสนาน แทน ที่ จะ รัก พระเจ้า, มี ความ เลื่อมใส ต่อ พระเจ้า ใน รูป แบบ หนึ่ง แต่ ปฏิเสธ พลัง แห่ง ความ เลื่อมใส นั้น.”
For instance, the apostle Paul encountered some who displayed “mock humility,” and he indicated that anyone doing this was actually “puffed up without proper cause by his fleshly frame of mind.”
อาทิ อัครสาวก เปาโล เผชิญ หน้า กับ บาง คน ที่ “ทําที ถ่อม ตัว” และ ท่าน ได้ ชี้ แจง ว่า ใคร ๆ ที่ กระทํา เช่น นี้ ที่ แท้ แล้ว เขา “พอง ตัว โดย ใช่ เหตุ ตาม ความ คิด ฝ่าย เนื้อหนัง ของ ตน.”
One who is puffed up, or haughty, unlovingly exalts himself above others.
ผู้ ใด ที่ พอง ตัว หรือ หยิ่ง ยโส โดย ปราศจาก ความ รัก ได้ ชื่อ เป็น คน ยก ตน ข่ม ท่าน.
(Matthew 24:12) In a similar vein, the apostle Paul wrote: “[People] will be lovers of themselves, lovers of money, self-assuming, haughty, blasphemers, disobedient to parents, unthankful, disloyal, having no natural [or, familial] affection, not open to any agreement, slanderers, without self-control, fierce, without love of goodness, betrayers, headstrong, puffed up with pride, lovers of pleasures rather than lovers of God.”
(มัดธาย 24:12) อัครสาวก เปาโล เขียน ใน ทํานอง เดียว กัน ว่า “เพราะ ว่า คน จะ เป็น คน รัก ตัว เอง, เป็น คน รัก เงิน, อวด ตัว, จองหอง, เป็น คน หมิ่น ประมาท, ไม่ เชื่อ ฟัง บิดา มารดา, อกตัญญู, ไม่ ภักดี, ไม่ มี ความ รักใคร่ ตาม ธรรมชาติ, ไม่ ยอม ตก ลง กัน, เป็น คน ใส่ ร้าย, ไม่ มี การ ควบคุม ตน เอง, ดุ ร้าย, ไม่ รัก ความ ดี, เป็น คน ทรยศ, หัวดื้อ, เย่อหยิ่ง จองหอง, เป็น คน รัก การ สนุกสนาน แทน ที่ จะ รัก พระเจ้า.”
For men will be lovers of themselves, lovers of money, . . . disobedient to parents, unthankful, disloyal, having no natural affection, . . . headstrong, puffed up with pride, lovers of pleasures rather than lovers of God, having a form of godly devotion but proving false to its power.” —2 Timothy 3:1-5.
ไม่ เชื่อ ฟัง บิดา มารดา อกตัญญู ไม่ ภักดี ไม่ มี ความ รัก ชอบ ตาม ธรรมชาติ . . . หัวดื้อ พอง ขน ด้วย ความ หยิ่ง เป็น คน รัก การ สนุกสนาน แทน ที่ จะ รัก พระเจ้า มี ความ เลื่อมใส ต่อ พระเจ้า ใน รูป แบบ หนึ่ง แต่ ปฏิเสธ พลัง แห่ง ความ เลื่อมใส นั้น.”—2 ติโมเธียว 3:1-5, ล. ม.
Paul added: “Love is not jealous, it does not brag, does not get puffed up.”
เปาโล กล่าว เสริม ว่า “ความ รัก ไม่ อิจฉา ริษยา หวง แหน ไม่ อวด ตัว ไม่ พอง ตัว.”
Paul warned about some who were “puffed up with pride” and involved in “debates about words.”
เปาโล เตือน เกี่ยว กับ คน ที่ “อวด ทะนง ตน” และ เข้า ยุ่ง เกี่ยว ใน “การ โต้ เถียง กัน เรื่อง ถ้อย คํา.”
Even as he puffed on a cigarette, he earnestly warned his sons against smoking, saying how stupid it was.
แม้ ขณะ ที่ เขา กําลัง ดูด บุหรี่ เขา เตือน ลูก ชาย อย่าง จริงจัง ว่า อย่า สูบ บุหรี่ เขา บอก ว่า มัน เป็น การ กระทํา ที่ โง่ เขลา มาก.
For men will be lovers of themselves, lovers of money, self-assuming, haughty, blasphemers, disobedient to parents, unthankful, disloyal, having no natural affection, not open to any agreement, slanderers, without self-control, fierce, without love of goodness, betrayers, headstrong, puffed up with pride, lovers of pleasures rather than lovers of God, having a form of godly devotion but proving false to its power.”
เพราะ ว่า คน จะ รัก ตัว เอง รัก เงิน อวดดี เย่อหยิ่ง หมิ่น ประมาท ไม่ เชื่อ ฟัง พ่อ แม่ อกตัญญู ไม่ ภักดี ไม่ มี ความ รักใคร่ ตาม ธรรมชาติ ไม่ ยอม ประนีประนอม เป็น คน ใส่ ร้าย ไม่ มี การ ควบคุม ตน เอง ดุ ร้าย ไม่ รัก ความ ดี เป็น คน ทรยศ หัวดื้อ ทะนง ตัว เป็น คน รัก การ สนุกสนาน แทน ที่ จะ รัก พระเจ้า เลื่อมใส พระเจ้า แต่ เปลือก นอก แต่ ไม่ ดําเนิน ชีวิต อย่าง คน ที่ ถูก กระตุ้น จาก พลัง ของ ความ เลื่อมใส พระเจ้า.”
For men will be lovers of themselves, lovers of money, . . . disloyal, having no natural affection, . . . without self-control, fierce, without love of goodness, betrayers, headstrong, puffed up with pride . . .
เพราะ ว่า คน จะ รัก ตัว เอง รัก เงิน ทอง . . . ไม่ ภักดี ไม่ มี ความ รักใคร่ ตาม ธรรมชาติ . . . ไม่ มี การ ควบคุม ตัว เอง ดุ ร้าย ไม่ รัก ความ ดี เป็น คน ทรยศ หัวดื้อ พอง ขน ด้วย ความ หยิ่ง . . .
11 Did Jesus’ immense grasp of divine truths and his winning way with words induce him to become puffed up with pride?
11 ความ เข้าใจ ที่ พระ เยซู มี อยู่ อย่าง มาก มาย เกี่ยว กับ ความ จริง ของ พระเจ้า และ ความ สามารถ ใน การ พูด ที่ ไม่ มี ใคร เทียบ ทํา ให้ พระองค์ พอง ตัว ด้วย ความ หยิ่ง ไหม?
3 As Bible prophecy foretold, in these last days of this wicked system of things, many are “lovers of themselves, lovers of money, self-assuming, haughty, blasphemers, disobedient to parents, unthankful, disloyal, having no natural affection, not open to any agreement, slanderers, without self-control, fierce, without love of goodness, betrayers, headstrong, puffed up with pride, lovers of pleasures rather than lovers of God.”
3 ดัง ที่ บอก ล่วง หน้า ใน คํา พยากรณ์ ของ คัมภีร์ ไบเบิล ใน สมัย สุด ท้าย ของ ระบบ ชั่ว นี้ หลาย คน “รัก ตัว เอง รัก เงิน อวดดี เย่อหยิ่ง หมิ่น ประมาท ไม่ เชื่อ ฟัง พ่อ แม่ อกตัญญู ไม่ ภักดี ไม่ มี ความ รักใคร่ ตาม ธรรมชาติ ไม่ ยอม ประนีประนอม เป็น คน ใส่ ร้าย ไม่ มี การ ควบคุม ตน เอง ดุ ร้าย ไม่ รัก ความ ดี เป็น คน ทรยศ หัวดื้อ ทะนง ตัว เป็น คน รัก การ สนุกสนาน แทน ที่ จะ รัก พระเจ้า.”

มาเรียนกันเถอะ ภาษาอังกฤษ

ตอนนี้เมื่อคุณรู้ความหมายของ puffed ใน ภาษาอังกฤษ มากขึ้นแล้ว คุณจะได้เรียนรู้วิธีใช้คำเหล่านี้ผ่านตัวอย่างที่เลือกไว้และวิธี อ่านแล้วอย่าลืมเรียนรู้คำที่เกี่ยวข้องที่เราแนะนำ เว็บไซต์ของเรามีการปรับปรุงคำศัพท์ใหม่ๆ และตัวอย่างใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา เพื่อให้คุณสามารถค้นหาความหมายของคำอื่นๆ ที่คุณไม่ทราบใน ภาษาอังกฤษ

อัปเดตคำของ ภาษาอังกฤษ

คุณรู้จัก ภาษาอังกฤษ ไหม

ภาษาอังกฤษมาจากชนเผ่าดั้งเดิมที่อพยพไปยังอังกฤษและมีวิวัฒนาการมาเป็นเวลากว่า 1,400 ปี ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่พูดมากเป็นอันดับสามของโลก รองจากจีนและสเปน เป็นภาษาที่สองที่มีการเรียนรู้มากที่สุด และภาษาราชการของเกือบ 60 ประเทศอธิปไตย ภาษานี้มีจำนวนผู้พูดเป็นภาษาที่สองและภาษาต่างประเทศมากกว่าเจ้าของภาษา ภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการร่วมของสหประชาชาติ สหภาพยุโรป และภาษาต่างประเทศอื่น ๆ อีกมากมาย และองค์กรระดับภูมิภาค ปัจจุบัน ผู้พูดภาษาอังกฤษทั่วโลกสามารถสื่อสารกันได้อย่างคล่องตัว