spitting ใน ภาษาอังกฤษ หมายถึงอะไร

ความหมายของคำว่า spitting ใน ภาษาอังกฤษ คืออะไร บทความอธิบายความหมายแบบเต็ม การออกเสียงพร้อมกับตัวอย่างสองภาษาและคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีใช้ spitting ใน ภาษาอังกฤษ

คำว่า spitting ใน ภาษาอังกฤษ หมายถึง การขาก, การถุยน้ําลาย, การถ่มน้ําลาย, การบ้วนน้ําลาย หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม โปรดดูรายละเอียดด้านล่าง

ฟังการออกเสียง

ความหมายของคำว่า spitting

การขาก

noun

การถุยน้ําลาย

noun

I'll go get Penny while that guy spits on our food.
ฉันจะไปตามเพนนี ขณะที่หมอนั่น ถุยน้ําลายใส่อาหารของเรา

การถ่มน้ําลาย

noun

If your husband spits on them, it will help.
ถ้าสามีคุณถ่มน้ําลายไปโดนเข้าละก็ มันจะช่วยได้มากทีเดียวนะคะ

การบ้วนน้ําลาย

noun

The person then spits on the pavement, leaving an unsightly red stain.
แล้วเขาก็บ้วนน้ําลายลงพื้น ทิ้งคราบแดงที่น่าเกลียดไว้.

ดูตัวอย่างเพิ่มเติม

And sometimes, many of these vessels -- manned by slaves -- are catching these so-called "trash fish," fish that we would love to see on a reef, grinding them up and turning them into shrimp feed -- an ecosystem literally eating itself and spitting out shrimp.
และบางครั้ง เรือพวกนี้มากมายหลายลํา ที่ใช้แรงงานทาส กําลังจับสิ่งที่เรียกว่า"ปลาขยะ" เหล่านี้ ปลาที่เรารักที่จะเห็นมันตามปะการัง ปลาเหล่านี้ถูกนําไปบด และเปลี่ยนไปเป็นอาหารกุ้ง ระบบนิเวศกําลังกินตัวมันเอง แล้วบ้วนกุ้งออกมาจริงๆ
Don't spit in his mouth.
อย่าพ่นใส่ปากเพื่อน
I got dog spit all in my mouth and my nose!
มันบ้วนน้ําลาย ใส่ทั้งปาก ทั้งจมูกชั้นเลย
No, you spit in your own hand.
ไม่มีคุณคายอยู่ในมือของคุณเอง.
Spitfire, spit fire!
แมลงพ่นไฟ พ่นไฟออกมา
Just a few days before it took place, he said: “Here we are, advancing up to Jerusalem, and the Son of man will be delivered to the chief priests and the scribes, and they will condemn him to death and will deliver him to men of the nations, and they will make fun of him and will spit upon him and scourge him and kill him.” —Mark 10:33, 34.
ก่อน จะ มี เหตุ การณ์ เพียง ไม่ กี่ วัน พระองค์ ตรัส ว่า “นี่ แน่ะ, เรา ทั้ง หลาย จะ ขึ้น ไป ยัง กรุง ยะรูซาเลม, และ เขา จะ มอบ บุตร มนุษย์ ไว้ กับ ปุโรหิต ใหญ่ และ พวก อาลักษณ์, และ เขา จะ ปรับ โทษ ท่าน ถึง ตาย, และ จะ มอบ ท่าน ไว้ กับ คน ต่าง ประเทศ คน ต่าง ประเทศ นั้น จะ เยาะเย้ย ท่าน, ถ่ม น้ําลาย รด ท่าน, จะ เฆี่ยน ตี ท่าน และ จะ ฆ่า ท่าน เสีย.”—มาระโก 10:33, 34.
Just a small amount, and be sure to spit it out.
แค่นิดเดียว และบ้วนทิ้งให้หมด
He suggested that since Terra did not sing the national anthem or salute the flag, there was no reason why she should not spit on the flag when ordered to do so.
เขา แนะ ว่า เนื่อง จาก แทร์รา ไม่ ร้อง เพลง ชาติ หรือ ทํา ความ เคารพ ธง ก็ ไม่ มี เหตุ ผล ที่ เธอ จะ ไม่ บ้วน น้ําลาย รด ธง เมื่อ ถูก สั่ง ให้ ทํา.
Such a beautiful woman and you arrest her just for spitting?
เธอก็แค่ผู้หญิงตัวเล็กๆ พวกแกจับเธอมา
You know he spit on my face?
มันถุยใส่หน้าผม
Large white blood cells called phagocytes consume these worn-out cells and spit out the iron atoms.
เซลล์ เม็ด เลือด ขาว ขนาด ใหญ่ ที่ เรียก ว่า ฟาโกไซต์ จะ กิน เซลล์ ที่ เสื่อม สภาพ เหล่า นี้ แล้ว คาย อะตอม ของ เหล็ก ออก มา.
We could take the 3 and put it into the function g and see what it spits out.
เราก็ใส่ 3 ลงไปในฟังก์ชัน g แล้ว ดูวว่ามันคายอะไรออกมา
Lord Snow here grew up in a castle spitting down on the likes of you.
ลอร์ดสโนว์คนนี้ เติบโตมาในปราสาท ดูถูก ผู้คนเยี่ยงเจ้า
Like a volcano that rumbles, smokes, and spits out cinders, that composite sign includes great wars, earthquakes, famines, and pestilences —all of which have ravaged the world on an unprecedented scale since the year 1914. —Matthew 24:3-8; Luke 21:10, 11; Revelation 6:1-8.
เช่น เดียว กับ ภูเขา ไฟ ที่ ส่ง เสียง ครืน ๆ พ่น ควัน และ เถ้า ถ่าน ออก มา หมาย สําคัญ ที่ ประกอบ กัน นั้น รวม ไป ถึง มหา สงคราม, แผ่นดิน ไหว, การ ขาด แคลน อาหาร, และ โรค ระบาด ซึ่ง ล้วน ก่อ ความ เสียหาย ให้ แก่ โลก นี้ ใน ระดับ ที่ ไม่ เคย เป็น มา ก่อน นับ ตั้ง แต่ ปี 1914.—มัดธาย 24:3-8; ลูกา 21:10, 11; วิวรณ์ 6:1-8.
Back in the classroom, the teacher announced that he had just tested two students, instructing them to spit on the flag.
เมื่อ กลับ ไป ยัง ห้อง เรียน ครู ประกาศ ว่า เขา เพิ่ง ได้ ทดสอบ นัก เรียน สอง คน โดย สั่ง ให้ เขา บ้วน น้ําลาย รด ธง.
Grits and spit and collard greens
ข้าวบาเลย์กับคนเลวทรามและผักคะน้า
Spitting was a means or sign of healing accepted by both Jews and Gentiles, and the use of saliva in cures is reported in rabbinic writings.
การ บ้วน น้ําลาย เป็น วิธี หรือ ท่า ทาง ที่ แสดง ถึง การ รักษา โรค อัน เป็น ที่ ยอม รับ โดย ชาว ยิว และ คน ต่าง ชาติ และ การ ใช้ น้ําลาย ใน การ รักษา ก็ มี รายงาน อยู่ ใน ข้อ เขียน ของ พวก รับบี.
Just spit it out.
คายออกมานะ
(Romans 13:10, The New English Bible) Would we be showing genuine love for others if we spit unsightly —and unhygienic— red saliva on paths, sidewalks, or other areas?
(โรม 13:10) จะ เป็น การ แสดง ความ รัก แท้ ต่อ คน อื่น ไหม ถ้า เรา บ้วน น้ําลาย สี แดง ที่ น่า เกลียด และ สกปรก บน ถนน ทาง เท้า หรือ ใน ที่ อื่น ๆ?
Users take a pinch, or ‘dip,’ and place it between the cheek and gum, shifting it about with their tongues and spitting occasionally.”
ผู้ ใช้ จะ หยิบ ขึ้น มา หยิบ หนึ่ง และ ยัด ไว้ ระหว่าง แก้ม กับ เหงือก ใช้ ลิ้น ดุน ย้าย ไป มา และ บ้วน น้ําลาย ทิ้ง เป็น ครั้ง คราว.”
You are the spitting image of someone I sold flowers to years ago.
เธอดูเหมือนคนที่ผมเคยขายดอกไม้ให้เมื่อหลายปีก่อน
As we have seen, Jesus was indeed made fun of, spit upon, scourged, and killed.
ดัง ที่ เรา ได้ เห็น แล้ว พระ เยซู ถูก เยาะเย้ย, ถูก ถ่ม น้ําลาย รด, ถูก เฆี่ยน ตี, และ ถูก ประหาร จริง ๆ.
Why don't you spit it out?
ทําไมเธอไม่พูดออกมันมา?
Lord Shen has created a weapon, one that breathes fire and spits metal.
ที่พ่นไฟและลูกเหล็กออกมา
Spit out the name of... your employer!
ให้มันบอกชื่อคนที่จ้างมันมาก่อน

มาเรียนกันเถอะ ภาษาอังกฤษ

ตอนนี้เมื่อคุณรู้ความหมายของ spitting ใน ภาษาอังกฤษ มากขึ้นแล้ว คุณจะได้เรียนรู้วิธีใช้คำเหล่านี้ผ่านตัวอย่างที่เลือกไว้และวิธี อ่านแล้วอย่าลืมเรียนรู้คำที่เกี่ยวข้องที่เราแนะนำ เว็บไซต์ของเรามีการปรับปรุงคำศัพท์ใหม่ๆ และตัวอย่างใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา เพื่อให้คุณสามารถค้นหาความหมายของคำอื่นๆ ที่คุณไม่ทราบใน ภาษาอังกฤษ

คำที่เกี่ยวข้องของ spitting

อัปเดตคำของ ภาษาอังกฤษ

คุณรู้จัก ภาษาอังกฤษ ไหม

ภาษาอังกฤษมาจากชนเผ่าดั้งเดิมที่อพยพไปยังอังกฤษและมีวิวัฒนาการมาเป็นเวลากว่า 1,400 ปี ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่พูดมากเป็นอันดับสามของโลก รองจากจีนและสเปน เป็นภาษาที่สองที่มีการเรียนรู้มากที่สุด และภาษาราชการของเกือบ 60 ประเทศอธิปไตย ภาษานี้มีจำนวนผู้พูดเป็นภาษาที่สองและภาษาต่างประเทศมากกว่าเจ้าของภาษา ภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการร่วมของสหประชาชาติ สหภาพยุโรป และภาษาต่างประเทศอื่น ๆ อีกมากมาย และองค์กรระดับภูมิภาค ปัจจุบัน ผู้พูดภาษาอังกฤษทั่วโลกสามารถสื่อสารกันได้อย่างคล่องตัว