sputter ใน ภาษาอังกฤษ หมายถึงอะไร

ความหมายของคำว่า sputter ใน ภาษาอังกฤษ คืออะไร บทความอธิบายความหมายแบบเต็ม การออกเสียงพร้อมกับตัวอย่างสองภาษาและคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีใช้ sputter ใน ภาษาอังกฤษ

คำว่า sputter ใน ภาษาอังกฤษ หมายถึง ปีน, บ้วน, ตะโกน หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม โปรดดูรายละเอียดด้านล่าง

ฟังการออกเสียง

ความหมายของคำว่า sputter

ปีน

verb

บ้วน

verb

ตะโกน

verb

ดูตัวอย่างเพิ่มเติม

At best, the nuclear firepower of those nations will sputter like a wet firecracker when Christ dashes his enemies to pieces as he would vessels of clay. —Psalm 2:8, 9; Revelation 16:14, 16; 19:11-13, 15.
อย่าง เก่ง ที่ สุด พลัง นิวเคลียร์ ของ ประเทศ เหล่า นั้น จะ พุ่ง ออก มา เสมือน ประทัด เปียก เมื่อ พระ คริสต์ ทรง ตี ทําลาย เหล่า ศัตรู ของ พระองค์ แตก กระจาย ประหนึ่ง พระองค์ ทรง ทุบ ภาชนะ ที่ ทํา ด้วย ดิน เหนียว.—บทเพลง สรรเสริญ 2:8, 9; วิวรณ์ 16:14, 16; 19:11-13, 15.
But after 120 miles [200 km], it sputters to a stop until its batteries can be recharged for at least three hours.
แต่ หลัง จาก วิ่ง ไป ได้ 200 กิโลเมตร เครื่อง ยนต์ จะ ดับ แล้ว รถ ก็ ค่อย ๆ หยุด จน กว่า จะ ชาร์จ แบตเตอรี่ ใหม่ อย่าง น้อย ๆ สาม ชั่วโมง.
“Oh,” I sputtered, “I see how you feel.”
“โอ” ดิฉันละล่ําละลักไปว่า “ดิฉันเข้าใจความรู้สึกคุณ”
If we can't throw out the old stuff, we have no room for the new stuff, so then the engines of the economy start to sputter when consumption is compromised.
ถ้าเราไม่สามารถโยนของเก่าทิ้งไปได้ เราก็จะไม่มีที่ว่างสําหรับของใหม่ เช่นเดียวกับกลไกของเศรษฐกิจ มันจะเริ่มสะดุดเมื่อการบริโภคลดน้อยลง
But did it also sputter?
แต่มันดังเป็นพักๆ

มาเรียนกันเถอะ ภาษาอังกฤษ

ตอนนี้เมื่อคุณรู้ความหมายของ sputter ใน ภาษาอังกฤษ มากขึ้นแล้ว คุณจะได้เรียนรู้วิธีใช้คำเหล่านี้ผ่านตัวอย่างที่เลือกไว้และวิธี อ่านแล้วอย่าลืมเรียนรู้คำที่เกี่ยวข้องที่เราแนะนำ เว็บไซต์ของเรามีการปรับปรุงคำศัพท์ใหม่ๆ และตัวอย่างใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา เพื่อให้คุณสามารถค้นหาความหมายของคำอื่นๆ ที่คุณไม่ทราบใน ภาษาอังกฤษ

อัปเดตคำของ ภาษาอังกฤษ

คุณรู้จัก ภาษาอังกฤษ ไหม

ภาษาอังกฤษมาจากชนเผ่าดั้งเดิมที่อพยพไปยังอังกฤษและมีวิวัฒนาการมาเป็นเวลากว่า 1,400 ปี ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่พูดมากเป็นอันดับสามของโลก รองจากจีนและสเปน เป็นภาษาที่สองที่มีการเรียนรู้มากที่สุด และภาษาราชการของเกือบ 60 ประเทศอธิปไตย ภาษานี้มีจำนวนผู้พูดเป็นภาษาที่สองและภาษาต่างประเทศมากกว่าเจ้าของภาษา ภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการร่วมของสหประชาชาติ สหภาพยุโรป และภาษาต่างประเทศอื่น ๆ อีกมากมาย และองค์กรระดับภูมิภาค ปัจจุบัน ผู้พูดภาษาอังกฤษทั่วโลกสามารถสื่อสารกันได้อย่างคล่องตัว