influenza ใน ภาษาอังกฤษ หมายถึงอะไร

ความหมายของคำว่า influenza ใน ภาษาอังกฤษ คืออะไร บทความอธิบายความหมายแบบเต็ม การออกเสียงพร้อมกับตัวอย่างสองภาษาและคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีใช้ influenza ใน ภาษาอังกฤษ

คำว่า influenza ใน ภาษาอังกฤษ หมายถึง ไข้หวัดใหญ่, โรคหวัด, หวัด หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม โปรดดูรายละเอียดด้านล่าง

ฟังการออกเสียง

ความหมายของคำว่า influenza

ไข้หวัดใหญ่

noun (infectious disease caused by an influenza virus)

Here we come. And that was the influenza.
เอ้าต่อมา นั่นคือไข้หวัดใหญ่

โรคหวัด

noun

หวัด

noun

ดูตัวอย่างเพิ่มเติม

This is an avian quarantine facility where all imported birds coming into America are required to undergo a 30-day quarantine, where they are tested for diseases including Exotic Newcastle Disease and Avian Influenza.
นี้เป็นสถานที่กักกันนก นกทุกตัวที่นําเข้ามาในอเมริกา จะต้องได้รับการกักกันเป็นเวลา 30 วัน พวกนกจะถูกตรวจสอบโรค รวมทั้งโรคนิวคอสเทิลดีซีส และโรคไข้หวัดนก
Believe it or not, there's an experimental trial going on with vaccine against influenza that has been grown in the cells of a tobacco plant.
วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ ที่เพาะเลี้ยงมาในเซลล์ของต้นยาสูบ
For instance, at the end of World War I, they were unable to contain the Spanish influenza; worldwide, it took some 20 million lives.
ตัว อย่าง เช่น ใน ตอน สิ้น สงคราม โลก ครั้ง ที่ หนึ่ง พวก เขา ไม่ สามารถ ควบคุม ไข้หวัด ใหญ่ สเปน ได้; โรค นี้ คร่า ชีวิต ผู้ คน ทั่ว โลก ประมาณ 20 ล้าน คน.
Well, turns out that anything that reduces the need for the antibiotic would really work, so that could include improving hospital infection control or vaccinating people, particularly against the seasonal influenza.
ครับ กลายเป็นอะไรก็ได้ ที่ลดความต้องการ ยาปฏิชีวนะลงได้ จริงๆแล้ว ก็จะใช้ได้ นั่นจึงรวมถึง การปรับปรุงการควบคุม การติดเชื้อของโรงพยาบาล หรือ การฉีดวัคซีนให้กับผู้คน โดยเฉพาะ เพื่อกันเชื้อไข้หวัดใหญ่
I was in bed, seriously ill with the dreaded Spanish influenza that was sweeping the world.
ผม นอน ป่วย หนัก ด้วย โรค ไข้หวัด ใหญ่ สเปน ที่ น่า กลัว ซึ่ง ระบาด ไป ทั่ว โลก.
▪ Spanish influenza (between 20 million and 30 million) Some historians say that the death toll was much higher.
ไข้หวัด ใหญ่ สเปน (ประมาณ 20 ถึง 30 ล้าน คน) นัก ประวัติศาสตร์ บาง คน กล่าว ว่า จํานวน ผู้ เสีย ชีวิต มี สูง กว่า นี้ มาก.
3 According to a recent estimate, one of the worst pandemics in human history was the Spanish influenza of 1918, which killed tens of millions of people.
3 ตาม การ ประมาณ เมื่อ ไม่ นาน มา นี้ โรค ระบาด ที่ ร้ายแรง ที่ สุด ครั้ง หนึ่ง ใน ประวัติศาสตร์ มนุษย์ ก็ คือ ไข้หวัด ใหญ่ สเปน ใน ปี 1918 ซึ่ง คร่า ชีวิต ผู้ คน ไป หลาย สิบ ล้าน คน.
(Luke 21:11) After acknowledging that earlier plagues killed large numbers over a period of decades, the magazine Science Digest showed how vastly greater was the Spanish influenza of 1918:
(ลูกา 21:11) หลัง จาก การ ยอม รับ ว่า ภัย พิบัติ ก่อน หน้า ที่ ได้ เกิด ขึ้น นั้น คร่า ชีวิต คน จํานวน มหาศาล ใน ช่วง เวลา หลาย ทศวรรษ วารสาร ไซเย็นส์ ไดเจสท์ ยัง ได้ ระบุ อีก ว่า ไข้หวัด ใหญ่ สเปน ใน ปี 1918 ยิ่ง ซ้ําร้าย กว่า เพียง ไร:
“In 1918, for example, a particularly virulent mutant strain of human influenza spread around the globe, killing an estimated 20 million people,” says Science News.
ไซเยนส์ นิวส์ แจ้ง ว่า “ตัว อย่าง เช่น ใน ปี 1918 เชื้อ ไข้หวัด ใหญ่ ที่ มี พิษ ร้าย อย่าง ไม่ เคย มี มา ก่อน ใน หมู่ มนุษย์ ได้ แพร่ ระบาด ไป ตลอด ทั่ว โลก สังหาร ผู้ คน ไป ประมาณ 20 ล้าน คน.
The Spanish influenza alone killed about 20,000,000 people following World War I—some estimates being 30,000,000 or more.
ไข้หวัด ใหญ่ สเปน เพียง อย่าง เดียว ได้ สังหาร ผู้ คน ประมาณ 20,000,000 คน หลัง สงคราม โลก ครั้ง ที่ 1—บ้าง ก็ ประมาณ ว่า มี ถึง 30,000,000 คน หรือ มาก กว่า นั้น.
The Spanish Influenza followed swiftly on the heels of World War I and claimed more lives than the war did.
ไข้หวัด ใหญ่ สเปน ตาม หลัง สงคราม โลก ครั้ง ที่ 1 มา ทันที และ ทํา ให้ ผู้ คน เสีย ชีวิต มาก กว่า สงคราม เสีย อีก.
That seemed reasonable enough, since there was an influenza epidemic in the area where we lived.
ดู เหมือน มี เหตุ ผล ดี เพราะ ตอน นั้น กําลัง มี ไข้หวัด ใหญ่ ระบาด ใน ละแวก ที่ เรา อยู่ พอ ดี.
That's when Carlisle found me dying of Spanish influenza.
นั่นเป็นตอนที่คาร์ไลส์พบผม ผมกําลังจะตายเพราะไข้หวัดใหญ่สเปน
Time magazine recently reported: “By the year 2000 AIDS could become the largest epidemic of the century, eclipsing the influenza scourge of 1918.
วารสาร ไทม์ รายงาน เมื่อ ไม่ นาน มา นี้ ว่า “ภาย ใน ปี 2000 เอดส์ อาจ จะ เป็น โรค ระบาด ที่ ยิ่ง ใหญ่ ที่ สุด แห่ง ศตวรรษ บดบัง ภัย พิบัติ ของ โรค ไข้หวัด ใหญ่ เมื่อ ปี 1918 โดย สิ้นเชิง.
According to the United Nations Children’s Fund, if countries achieve their goals, “by 2015, more than 70 million children who live in the world’s poorest countries will receive each year life-saving vaccines against the following diseases: tuberculosis, diphtheria, tetanus, pertussis, measles, rubella, yellow fever, haemophilus influenzae type B, hepatitis B, polio, rotavirus, pneumococcus, meningococcus, and Japanese encephalitis.”
ตาม ที่ องค์การ ทุน เพื่อ เด็ก แห่ง สหประชาชาติ รายงาน ถ้า ประเทศ ต่าง ๆ ทํา ได้ ตาม เป้าหมาย “พอ ถึง ปี 2015 เด็ก ๆ มาก กว่า 70 ล้าน คน ที่ อาศัย อยู่ ใน ประเทศ ที่ ยาก จน ที่ สุด จะ ได้ รับ วัคซีน ที่ ช่วย ชีวิต เพื่อ ป้องกัน โรค ต่อ ไป นี้ ทุก ปี: วัณโรค, โรค คอ ตีบ, โรค บาดทะยัก, โรค ไอ กรน, โรค หัด, โรค หัด เยอรมัน, ไข้ เหลือง, ฮีโมฟีลัส อินฟลูเอนซา ไทป์ บี, ตับ อักเสบ บี, โปลิโอ, โรตา ไวรัส, นิวโมคอกคัส, เมนิงโกคอกคัส, และ ไข้ สมอง อักเสบ ญี่ปุ่น.”
Now, of course, we've worked within my lab with many other vaccines that have attained similar responses and similar curves to this, what we've achieved with influenza.
และแน่นอนครับ พวกเราได้ทําวิจัยในห้องทดลอง กับวัคซีนต่างๆ ก็เห็นผลลัพธ์คล้ายๆ กัน ได้กราฟคล้ายๆ กันนี้ กับที่เราทดสอบกับวัคซีนโรคหวัด
Magnified view of the H1N1 influenza virus
ภาพ ขยาย ของ ไวรัส ไข้หวัด ใหญ่ เอช 1 เอ็น 1
Over 300 leading experts on influenza recently gathered at the World Health Organization (WHO) headquarters in Geneva, Switzerland, to discuss how to combat the deadly disease.
ผู้ เชี่ยวชาญ ชั้น แนว หน้า เรื่อง ไข้หวัด ใหญ่ กว่า 300 คน ประชุม กัน เมื่อ เร็ว ๆ นี้ ที่ สํานักงาน ใหญ่ ของ องค์การ อนามัย โลก (WHO) ใน กรุง เจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ เพื่อ หารือ กัน ใน เรื่อง วิธี สู้ กับ โรค เพชฌฆาต นี้.
In order to improve influenza prevention and control, WHO will publish a plan designed to help prepare for what it calls “an eventual influenza pandemic.”
เพื่อ ปรับ ปรุง การ ป้องกัน และ ควบคุม ไข้หวัด ใหญ่ องค์การ อนามัย โลก จะ ประกาศ แผนการ ซึ่ง มุ่ง หมาย จะ ช่วย ให้ เตรียม พร้อม สําหรับ สิ่ง ที่ เรียก ว่า “การ ระบาด ของ ไข้หวัด ใหญ่ ที่ อาจ เกิด ขึ้น ได้.”
I wonder what that means for that health system's ability to, let's say, detect influenza."
ฉันสงสัยว่านั่นมันหมายถึงอะไรกัน สําหรับความสามารถของระบบสุขภาพนั้น อย่างเช่น ในการตรวจจับโรคไข้หวัดใหญ่"
We obtained an influenza vaccine, we applied it to our Nanopatches and we applied the Nanopatches to the skin, and we waited -- and this is in the live animal.
เรานําวัคซีนโรคหวัดมา เราเคลือบมันบนนาโนแพทช์ และเราวางแผ่นนาโนแพทช์บนผิวหนัง และเราก็รอ นี่คือ ภายในสัตว์ที่มีชีวิต
And this is something we commonly do to look for respiratory viruses like influenza.
และมันเป็นสิ่งที่เราทํากันเป็นปกติ เพื่อหาไวรัสไข้หวัดใหญ่ในทางเดินหายใจ
Influenza Still Killing
ไข้หวัด ใหญ่ ยัง คง ทําลาย ชีวิต ต่อ ไป
Type A is the most common cause of influenza.
เชื้อ ชนิด เอ ทํา ให้ เป็น ไข้หวัด ใหญ่ มาก ที่ สุด.
“The war had killed over 21 million people in four years of dogged conflict; the influenza epidemic took approximately the same toll in about four months.
“สงคราม ได้ ผลาญ ชีวิต ผู้ คน มาก กว่า 21 ล้าน คน ใน ช่วง สี่ ปี แห่ง การ ต่อ สู้ อย่าง ทรหด การ แพร่ ระบาด ของ ไข้หวัด ใหญ่ ทํา ให้ คน เสีย ชีวิต มาก พอ ๆ กัน ภายใน เวลา สี่ เดือน โดย ประมาณ.

มาเรียนกันเถอะ ภาษาอังกฤษ

ตอนนี้เมื่อคุณรู้ความหมายของ influenza ใน ภาษาอังกฤษ มากขึ้นแล้ว คุณจะได้เรียนรู้วิธีใช้คำเหล่านี้ผ่านตัวอย่างที่เลือกไว้และวิธี อ่านแล้วอย่าลืมเรียนรู้คำที่เกี่ยวข้องที่เราแนะนำ เว็บไซต์ของเรามีการปรับปรุงคำศัพท์ใหม่ๆ และตัวอย่างใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา เพื่อให้คุณสามารถค้นหาความหมายของคำอื่นๆ ที่คุณไม่ทราบใน ภาษาอังกฤษ

คำที่เกี่ยวข้องของ influenza

อัปเดตคำของ ภาษาอังกฤษ

คุณรู้จัก ภาษาอังกฤษ ไหม

ภาษาอังกฤษมาจากชนเผ่าดั้งเดิมที่อพยพไปยังอังกฤษและมีวิวัฒนาการมาเป็นเวลากว่า 1,400 ปี ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่พูดมากเป็นอันดับสามของโลก รองจากจีนและสเปน เป็นภาษาที่สองที่มีการเรียนรู้มากที่สุด และภาษาราชการของเกือบ 60 ประเทศอธิปไตย ภาษานี้มีจำนวนผู้พูดเป็นภาษาที่สองและภาษาต่างประเทศมากกว่าเจ้าของภาษา ภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการร่วมของสหประชาชาติ สหภาพยุโรป และภาษาต่างประเทศอื่น ๆ อีกมากมาย และองค์กรระดับภูมิภาค ปัจจุบัน ผู้พูดภาษาอังกฤษทั่วโลกสามารถสื่อสารกันได้อย่างคล่องตัว