plough ใน ภาษาอังกฤษ หมายถึงอะไร

ความหมายของคำว่า plough ใน ภาษาอังกฤษ คืออะไร บทความอธิบายความหมายแบบเต็ม การออกเสียงพร้อมกับตัวอย่างสองภาษาและคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีใช้ plough ใน ภาษาอังกฤษ

คำว่า plough ใน ภาษาอังกฤษ หมายถึง ไถ, การไถนา, ไถดิน, กลุ่มดาวไถ, กลุ่มดาวไถใหญ่ หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม โปรดดูรายละเอียดด้านล่าง

ฟังการออกเสียง

ความหมายของคำว่า plough

ไถ

nounverb

Tillage of the subsoil or soil pan below the normal plough depth
การไถชั้นดินดานหรือการไถในระดับความลึกมากกว่าปกติ

การไถนา

noun (An agricultural device pulled through the ground in order to break it open into furrows for planting.)

Then he put down the plough and took up the sword.
เขาเลิกไถนา หันมาจับอาวุธ

ไถดิน

verb

กลุ่มดาวไถ

noun

กลุ่มดาวไถใหญ่

noun

ดูตัวอย่างเพิ่มเติม

He once said to a clergyman who opposed him: ‘If God spare my life, ere many years I will cause a boy who drives the plough to know more of the Scriptures than you do.’
ครั้ง หนึ่ง เขา บอก นัก เทศน์ ที่ ต่อ ต้าน เขา ว่า ‘หาก พระเจ้า ยัง ทรง ไว้ ชีวิต ข้าพเจ้า ก่อน หลาย ปี ผ่าน ไป ข้าพเจ้า จะ ทํา ให้ แม้ แต่ เด็ก ที่ ถือ คัน ไถ ได้ รู้ คัมภีร์ มาก กว่า ท่าน.’
Justin Martyr, of the second century C.E., wrote of Jesus: “He was in the habit of working as a carpenter when among men, making ploughs and yokes.”
จัสติน มาร์เทอร์ แห่ง ศตวรรษ ที่ สอง สากล ศักราช ได้ เขียน เกี่ยว กับ พระ เยซู ว่า “เมื่อ อยู่ ใน ท่ามกลาง มนุษย์ พระองค์ ทํา งาน เป็น ช่าง ไม้ งาน ที่ พระองค์ ทํา เป็น ประจํา คือ ทํา คัน ไถ และ แอก.”
In his Dialogue With Trypho, Justin Martyr, of the second century C.E., wrote of Jesus: “He was in the habit of working as a carpenter when among men, making ploughs and yokes.”
ใน หนังสือ บท สนทนา กับ ไทรโฟ จัสติน มาร์เทอร์ แห่ง ศตวรรษ ที่ สอง เขียน เกี่ยว กับ พระ เยซู ว่า “เมื่อ อยู่ ใน หมู่ ผู้ ชาย งาน ที่ พระองค์ ทรง ทํา เป็น ประจํา คือ งาน ช่าง ไม้ ทํา ผาล และ แอก.”
Tyndale, who was educated at Oxford, wanted to produce a translation that even “a boy that driveth the plough” could understand.1 But to accomplish this, he had to flee to Germany, where his English “New Testament” was printed in 1526.
ทินเดล ซึ่ง เคย ศึกษา ที่ ออกซฟอร์ด ต้องการ ผลิต ฉบับ แปล ที่ แม้ แต่ “เด็ก ที่ ถือ คัน ไถ” ก็ เข้าใจ ได้.1 แต่ เพื่อ จะ ทํา การ นี้ ให้ สําเร็จ เขา จํา ต้อง หนี ไป เยอรมนี ที่ ซึ่ง “พันธสัญญา ใหม่” ภาษา อังกฤษ ของ เขา มี การ พิมพ์ ขึ้น ใน ปี 1526.
“Our Savior, Jesus Christ, who sees from the beginning to the end, knew very well the road He would travel to Gethsemane and Golgotha when He proclaimed, ‘No man, having put his hand to the plough, and looking back, is fit for the kingdom of God’ (Luke 9:62).
“พระผู้ช่วยให้รอดของเรา พระเยซูคริสต์ ผู้ทรงเห็นตั้งแต่กาลเริ่มต้นจนถึงอวสาน ทรงรู้จักเส้นทางที่จะเสด็จไปยังเกทเสมนีและกลโกธาได้ดีมากเมื่อพระองค์ทรงประกาศว่า ‘ไม่มีใครเอามือจับคันไถแล้วหันหลังกลับ จะสมควรกับแผ่นดินของพระเจ้า’ (ลูกา 9:62) ในสายพระเนตรของพระเจ้า สิ่งที่เราเคยทําหรือจุดที่เราเคยอยู่นั้นไม่สําคัญเท่ากับจุดที่เราเต็มใจจะไป” (“จงมองไปข้างหน้าและเชื่อ,” เลียโฮนา, พ.
Tillage of the subsoil or soil pan below the normal plough depth
การไถชั้นดินดานหรือการไถในระดับความลึกมากกว่าปกติ
If God spare my life, ere many years I will cause a boy that driveth the plough shall know more of the Scripture than thou doest.”
หาก พระเจ้า ยัง ทรง ไว้ ชีวิต ข้าพเจ้า ก่อน หลาย ปี ผ่าน ไป ข้าพเจ้า จะ ทํา ให้ แม้ แต่ เด็ก ที่ ถือ คัน ไถ ได้ รู้ จัก พระ คัมภีร์ มาก กว่า ท่าน.”
Says one historian: “A village could be reduced to ruin by the seizure of ploughing oxen for angareia instead of authorized draught animals.”
นัก ประวัติศาสตร์ คน หนึ่ง กล่าว ว่า “หมู่ บ้าน อาจ ล่ม จม ได้ เมื่อ วัว สําหรับ ใช้ ไถ นา ถูก ยึด ไป เพื่อ อาการีอา แทน ที่ จะ ยึด สัตว์ ที่ เหมาะ จะ ใช้ ลาก ของ มาก กว่า.”
In his fifth book, he quotes this ancient proverb: “He who ploughs the olive-grove, asks it for fruit; he who manures it, begs for fruit; he who lops it, forces it to yield fruit.”
ใน หนังสือ เล่ม ที่ ห้า เขา ยก สุภาษิต โบราณ ขึ้น มา กล่าว ว่า “คน ที่ ไถ สวน มะกอก ร้อง ขอ ผล; คน ที่ ใส่ ปุ๋ย คอก ให้ สวน มะกอก อ้อน วอน ขอ ผล; คน ที่ ตัด แต่ง ต้น มะกอก บังคับ มัน ให้ เกิด ผล.”
Elder Edward Dube of the Seventy taught that Jesus gave us an example of what it means to put our hand to the plough and not look back:
เอ็ลเดอร์เอ็ดเวิร์ด ดูเบแห่งสาวกเจ็ดสิบสอนว่าพระเยซูประทานตัวอย่างให้เข้าใจว่าการจับคันไถและไม่หันหลังกลับหมายความว่าอย่างไร
So Tyndale’s words were prescient: a plough-boy did grow to know more of scripture than probably any man who ever lived, save the Savior.
ด้วยเหตุนี้ถ้อยคําของทีนเดลจึงบอกล่วงหน้าว่าเด็กไถนาน่าจะรู้พระคัมภีร์มากกว่าทุกคนที่เคยมีชีวิต ยกเว้นพระผู้ช่วยให้รอด
“... In a heated exchange with a cleric who argued against putting scripture in the hands of the common man, Tyndale vowed, ‘If God spare my life, ere many years I will cause a boy that driveth the plough, shall know more of the Scripture than thou dost!’
“... ในการโต้เถียงอย่างดุเดือดกับบาทหลวงผู้หนึ่งซึ่งต่อต้านการให้คนธรรมดาสามัญครอบครองพระคัมภีร์ ทินเดลปฏิญาณว่า ‘หากพระผู้เป็นเจ้าทรงไว้ชีวิต ภายในไม่กี่ปีข้าพเจ้าจะทําให้เด็กขับรถไถรู้พระคัมภีร์มากกว่าท่านเสียอีก!”
Then he put down the plough and took up the sword.
เขาเลิกไถนา หันมาจับอาวุธ
Those loyal to the Church of Scotland considered it “little short of blasphemy” for uneducated men “bred to the loom, the needle, or the plough” to pretend to understand the Bible and preach its message.
เหล่า ผู้ จงรักภักดี ต่อ คริสตจักร แห่ง สกอตแลนด์ ถือ ว่า “เป็น การ หมิ่น ประมาท พระเจ้า” ที่ ชาย ไร้ การ ศึกษา “ซึ่ง ถูก เลี้ยง ดู มา อย่าง ต่ําต้อย” มา แสร้ง ทํา เป็น เข้าใจ คัมภีร์ ไบเบิล และ ประกาศ ข่าวสาร ใน คัมภีร์ ไบเบิล.

มาเรียนกันเถอะ ภาษาอังกฤษ

ตอนนี้เมื่อคุณรู้ความหมายของ plough ใน ภาษาอังกฤษ มากขึ้นแล้ว คุณจะได้เรียนรู้วิธีใช้คำเหล่านี้ผ่านตัวอย่างที่เลือกไว้และวิธี อ่านแล้วอย่าลืมเรียนรู้คำที่เกี่ยวข้องที่เราแนะนำ เว็บไซต์ของเรามีการปรับปรุงคำศัพท์ใหม่ๆ และตัวอย่างใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา เพื่อให้คุณสามารถค้นหาความหมายของคำอื่นๆ ที่คุณไม่ทราบใน ภาษาอังกฤษ

คำที่เกี่ยวข้องของ plough

อัปเดตคำของ ภาษาอังกฤษ

คุณรู้จัก ภาษาอังกฤษ ไหม

ภาษาอังกฤษมาจากชนเผ่าดั้งเดิมที่อพยพไปยังอังกฤษและมีวิวัฒนาการมาเป็นเวลากว่า 1,400 ปี ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่พูดมากเป็นอันดับสามของโลก รองจากจีนและสเปน เป็นภาษาที่สองที่มีการเรียนรู้มากที่สุด และภาษาราชการของเกือบ 60 ประเทศอธิปไตย ภาษานี้มีจำนวนผู้พูดเป็นภาษาที่สองและภาษาต่างประเทศมากกว่าเจ้าของภาษา ภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการร่วมของสหประชาชาติ สหภาพยุโรป และภาษาต่างประเทศอื่น ๆ อีกมากมาย และองค์กรระดับภูมิภาค ปัจจุบัน ผู้พูดภาษาอังกฤษทั่วโลกสามารถสื่อสารกันได้อย่างคล่องตัว