relic ใน ภาษาอังกฤษ หมายถึงอะไร

ความหมายของคำว่า relic ใน ภาษาอังกฤษ คืออะไร บทความอธิบายความหมายแบบเต็ม การออกเสียงพร้อมกับตัวอย่างสองภาษาและคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีใช้ relic ใน ภาษาอังกฤษ

คำว่า relic ใน ภาษาอังกฤษ หมายถึง ของชําร่วย, ของที่ระลึก, ซากโบราณ หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม โปรดดูรายละเอียดด้านล่าง

ฟังการออกเสียง

ความหมายของคำว่า relic

ของชําร่วย

noun

ของที่ระลึก

noun

ซากโบราณ

noun

ดูตัวอย่างเพิ่มเติม

Doubtless the majority were moved by sincere belief, belief in a relic they never saw —the bones were encased in an ornate casket behind metal bars.
เป็น ไป ได้ ว่า คน ส่วน ใหญ่ ถูก กระตุ้น โดย ความ เชื่อ อย่าง จริง ใจ เชื่อ ใน อัฐิ ที่ พวก เขา ไม่ เคย เห็น เลย—ซาก กระดูก ถูก บรรจุ ไว้ ใน หีบ ศพ ซึ่ง ประดับ ตกแต่ง อย่าง สวย งาม อยู่ หลัง รั้ว กั้น โลหะ.
It is not by seeing and touching religious relics that a person acts in harmony with Jesus’ words about the worship that God desires.
หา ใช่ โดย การ เห็น และ การ สัมผัส วัตถุ โบราณ ทาง ศาสนา ไม่ ที่ คน เรา ปฏิบัติ สอดคล้อง กับ คํา ตรัส ของ พระ เยซู ใน เรื่อง การ นมัสการ ที่ พระเจ้า ทรง ประสงค์.
Why, in Italy alone, there are 2,468 so-called holy places with religious relics!
ใน อิตาลี ประเทศ เดียว มี 2,468 แห่ง ที่ ได้ ชื่อ ว่า เป็น สถาน ศักดิ์สิทธิ์ พร้อม ด้วย โบราณ วัตถุ ทาง ศาสนา!
At least four popes in the last 70 years have given special attention to relics.
อย่าง น้อย ที่ สุด สันตะปาปา สี่ คน ใน 70 ปี ที่ แล้ว ได้ ให้ ความ สนใจ เป็น พิเศษ ต่อ วัตถุ โบราณ ทาง ศาสนา.
Never seen so many relics.
โอ! ฉันไม่เคยเห็นของเก่ามากขนาดนี้
Relics were worth more than gold, and no cathedral in Christendom was complete without them.
พระ อัฐิ ต่าง ๆ มี ค่า ยิ่ง เสีย กว่า ทองคํา และ ไม่ มี โบสถ์ ขนาด ใหญ่ แห่ง ใด ใน คริสต์ ศาสนจักร ที่ สําเร็จ สมบูรณ์ โดย ปราศจาก สิ่ง เหล่า นั้น.
They were trusted to protect the pious from harm —William the Conqueror had several relics strung around his neck at the Battle of Hastings, in which he defeated King Harold of England.
สิ่ง เหล่า นั้น ได้ รับ ความ ไว้ วางใจ ว่า จะ ป้องกัน ผู้ ที่ เลื่อมใส ให้ พ้น จาก อันตราย—วิลเลียม เดอะ คอนเคอเรอ ก็ มี หลาย ชิ้น ผูก ร้อย รอบ คอ เขา ณ การ รบ ที่ เฮสติงส์ ซึ่ง เขา ได้ เอา ชนะ กษัตริย์ แฮโรลด์ แห่ง อังกฤษ.
A natural freedom of fancy among the people turned the holy relics, pictures, and statues into objects of adoration; people prostrated themselves before them, kissed them, burned candles and incense before them, crowned them with flowers, and sought miracles from their occult influence. . . .
จินตนาการ ที่ หลาก หลาย ท่ามกลาง ประชาชนได้ ทํา ให้ รูป ภาพ, รูป ปั้น, และ กระดูก หรือ สิ่ง ของ ของ ผู้ บริสุทธิ์ กลาย เป็น สิ่ง ซึ่ง ได้ รับ การ ยกย่อง บูชา ที่ ผู้ คน จะ ก้ม กราบ, จูบ, จุด เทียน และ เผา เครื่อง หอม ถวาย, นํา ดอกไม้ มา สวม เป็น มงกุฎ ให้, และ แสวง หา การ อัศจรรย์ จาก อํานาจ ที่ แฝง อยู่ ใน สิ่ง เหล่า นั้น . . . .
Miracles involving this religious relic had reportedly been taking place since the 14th century.
ว่า กัน ว่า การ อัศจรรย์ ที่ เกี่ยว ข้อง กับ วัตถุ เก่า แก่ ทาง ศาสนา นี้ เกิด ขึ้น มา ตั้ง แต่ ศตวรรษ ที่ 14 แล้ว.
Another reason to avoid devotion to “saints” and religious relics associated with them rests in what the Bible says about idolatry.
เหตุ ผล อีก ประการ หนึ่ง ที่ พึง หลีก เลี่ยง ความ เลื่อมใส ศรัทธา ต่อ “พวก นัก บุญ” และ วัตถุ โบราณ ทาง ศาสนา ที่ เกี่ยว ข้อง กับ นัก บุญ เหล่า นั้น อยู่ ใน สิ่ง ที่ พระ คัมภีร์ กล่าว เกี่ยว กับ การ ไหว้ รูป เคารพ.
(Romans 10:17; Hebrews 11:6) And if we walk in the way of true worship, we will act in harmony with the overwhelming Scriptural evidence that devotion to relics does not please God.
(โรม 10:17; เฮ็บราย 11:6) และ ถ้า เรา ดําเนิน ใน หน ทาง แห่ง การ นมัสการ แท้ เรา จะ ปฏิบัติ สอดคล้อง กับ หลักฐาน ท่วมท้น ตาม พระ คัมภีร์ ที่ ว่า ความ เลื่อมใส ศรัทธา ต่อ วัตถุ โบราณ ทาง ศาสนา นั้น ไม่ เป็น ที่ พอ พระทัย ของ พระเจ้า.
Relics of a Bygone Culture
วัฒนธรรม จาก อดีต ที่ ตกทอด มา
Reverence for relics is believed to date from the fourth century of our Common Era, as does veneration of “saints.”
เชื่อ กัน ว่า การ เคารพ ต่อ วัตถุ โบราณ นั้น มี มา ตั้ง แต่ ศตวรรษ ที่ สี่ แห่ง สากล ศักราช เช่น เดียว กับ การ คารวะ “พวก นัก บุญ.”
Is it not because the Golden Rule, though still widely known, is being brushed aside as unrealistic, a moral relic?
นี่ เป็น เพราะ ว่า กฎ ทอง ซึ่ง แม้ จะ ยัง คง เป็น ที่ รู้ จัก กัน อย่าง กว้างขวาง ถูก ปัด ทิ้ง ไป มิ ใช่ หรือ โดย ถือ ว่า ไม่ ตรง กับ ความ เป็น จริง เป็น หลัก ศีลธรรม เก่า ๆ ที่ ใช้ ไม่ ได้ แล้ว?
These traditions developed side by side with the unscriptural veneration of relics.
เรื่อง เล่า ลือ เหล่า นี้ เกิด ขึ้น ใน ช่วง สมัย เดียว กับ การ เคารพ บูชา วัตถุ โบราณ ซึ่ง ไม่ เป็น ไป ตาม พระ คัมภีร์.
In 1996 the cathedral in Trier put a relic on display that supposedly is almost as old as the city itself.
ใน ปี 1996 โบสถ์ ใหญ่ ใน เทรียร์ เปิด แสดง วัตถุ โบราณ ชิ้น หนึ่ง ซึ่ง ถือ กัน ว่า เก่า แก่ เกือบ จะ เท่า อายุ ตัว เมือง ที เดียว.
A travel guidebook explains: “The most famous—and most dubious—holy relic of them all is kept in Turin’s duomo [cathedral].”
หนังสือ คู่มือ การ ท่อง เที่ยว เล่ม หนึ่ง ชี้ แจง ว่า “สิ่ง ศักดิ์สิทธิ์ ที่ มี ชื่อเสียง ที่ สุด และ อาจ น่า สงสัย ที่ สุด ถูก เก็บ ไว้ ใน ดูโอโม [มหา วิหาร] ของ เมือง ตูริน.”
Everywhere, there are rusting war relics—fighter planes, mounted guns, and torpedoes—overgrown with tropical plant life.
ทุก หน ทุก แห่ง มี ซาก จาก สงคราม ที่ ขึ้น สนิม อาทิ เครื่องบิน รบ, ปืน ใหญ่ ที่ ตั้ง วาง ไว้, และ ระเบิด ตอร์ปิโด ซึ่ง ตอน นี้ มี พรรณ ไม้ เขต ร้อน ขึ้น ปก คลุม แน่น.
And what first attracted me, or interested me, was this view from the street -- which is this steel structure, sort of rusty, this industrial relic.
และสิ่งแรกที่ดึงดูด ที่ทําให้ผมสนใจ ก็คือ ทิวทัศน์จากถนนแบบนี้ครับ -- ซึ่งเป็นโครงสร้างเหล็กกล้าอันนี้ ค่อนข้างจะสนิมจับ เป็นอนุสรณ์แห่งยุคอุตสาหกรรม
The most important point I want to make to you about this is the sacred and somewhat over-romanticized doctor-patient one-on-one is a relic of the past.
สิ่งที่สําคัญที่สุดที่ผมอยากจะบอกคุณก็คือ อัตราหมอหนึ่งคนต่อคนไข้หนึ่งคน ที่แสนจะศักดิ์สิทธิ์และแลดูเกินจริงนั้น เป็นเพียงซากของอดีต
As the Dizionario Ecclesiastico points out, relics are “in the strict sense of the word, the body or part of the body and the ashes of the Saint, in a broader sense the object that came into contact with the body of the saint and which is therefore worthy of devotion.”
ตาม ที่ ดิซิโอนาริโอ เอคเคลซีอาสทีโค ชี้ แจง นั้น วัตถุ โบราณ “ใน แง่ ของ การ จํากัดความ ที่ แท้ จริง นั้น เป็น ร่าง หรือ ส่วน ของ ร่าง และ เถ้า ของ นัก บุญ ใน แง่ ความ หมาย กว้าง ออก ไป หมาย ถึง วัตถุ ที่ เกี่ยว ข้อง กับ ร่าง กาย ของ นัก บุญ และ เพราะ ฉะนั้น จึง คู่ ควร กับ ความ เลื่อมใส ศรัทธา.”
IN MANY religious circles, the Devil has come to be regarded largely as a superstitious relic—an invention of humans.
ใน หลาย วงการ ศาสนา คน ส่วน ใหญ่ ถือ กัน ว่า พญา มาร เป็น การ เชื่อ โชค ลาง ที่ มี มา แต่ อดีต หรือ เป็น เรื่อง ที่ มนุษย์ แต่ง ขึ้น.
In Vatican City itself there are over a thousand relics in a special archive.
ใน นคร วาติกัน เอง มี วัตถุ โบราณ มาก กว่า หนึ่ง พัน ชิ้น ใน ห้อง เก็บ เอกสาร พิเศษ.
We partnered with the Nature Conservancy for inmates at Stafford Creek Correctional Center to grow endangered prairie plants for restoration of relic prairie areas in Washington state.
เพื่อให้ผู้ต้องขังในทัณฑสถานสแตฟฟอร์ดครีก ได้ปลูกพืชเขตทุ่งหญ้าแพร์รีที่ใกล้สูญพันธุ์ เพื่อนําไปฟื้นฟูเขตทุ่งหญ้าแพร์รีในรัฐวอชิงตันที่ยังหลงเหลืออยู่
Michael the archangel disputed with the Devil about Moses’ body, and Satan was foiled in any possible attempt to use it to ensnare the Israelites in relic worship.
อัครทูตสวรรค์ มิคาเอล โต้ เถียง กับ พญา มาร ใน เรื่อง ศพ ของ โมเซ และ ซาตาน ได้ ถูก ขัด ขวาง ที่ จะ ใช้ ความ พยายาม ใด ๆ ที่ เป็น ไป ได้ ใน การ ใช้ ศพ นั้น เพื่อ หลอกล่อ ชน ยิศราเอล เข้า สู่ การ นมัสการ วัตถุ “ที่ ทิ้ง ไว้ เบื้อง หลัง.”

มาเรียนกันเถอะ ภาษาอังกฤษ

ตอนนี้เมื่อคุณรู้ความหมายของ relic ใน ภาษาอังกฤษ มากขึ้นแล้ว คุณจะได้เรียนรู้วิธีใช้คำเหล่านี้ผ่านตัวอย่างที่เลือกไว้และวิธี อ่านแล้วอย่าลืมเรียนรู้คำที่เกี่ยวข้องที่เราแนะนำ เว็บไซต์ของเรามีการปรับปรุงคำศัพท์ใหม่ๆ และตัวอย่างใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา เพื่อให้คุณสามารถค้นหาความหมายของคำอื่นๆ ที่คุณไม่ทราบใน ภาษาอังกฤษ

อัปเดตคำของ ภาษาอังกฤษ

คุณรู้จัก ภาษาอังกฤษ ไหม

ภาษาอังกฤษมาจากชนเผ่าดั้งเดิมที่อพยพไปยังอังกฤษและมีวิวัฒนาการมาเป็นเวลากว่า 1,400 ปี ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่พูดมากเป็นอันดับสามของโลก รองจากจีนและสเปน เป็นภาษาที่สองที่มีการเรียนรู้มากที่สุด และภาษาราชการของเกือบ 60 ประเทศอธิปไตย ภาษานี้มีจำนวนผู้พูดเป็นภาษาที่สองและภาษาต่างประเทศมากกว่าเจ้าของภาษา ภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการร่วมของสหประชาชาติ สหภาพยุโรป และภาษาต่างประเทศอื่น ๆ อีกมากมาย และองค์กรระดับภูมิภาค ปัจจุบัน ผู้พูดภาษาอังกฤษทั่วโลกสามารถสื่อสารกันได้อย่างคล่องตัว