offspring ใน ภาษาอังกฤษ หมายถึงอะไร

ความหมายของคำว่า offspring ใน ภาษาอังกฤษ คืออะไร บทความอธิบายความหมายแบบเต็ม การออกเสียงพร้อมกับตัวอย่างสองภาษาและคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีใช้ offspring ใน ภาษาอังกฤษ

คำว่า offspring ใน ภาษาอังกฤษ หมายถึง ลูก, ผล, กุมาร หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม โปรดดูรายละเอียดด้านล่าง

ฟังการออกเสียง

ความหมายของคำว่า offspring

ลูก

noun

It will affect the production of dark pigment in the fur of the bear's offspring.
มันจะส่งผลกระทบต่อการผลิต ของเม็ดสีเข้มในที่ทําจากขนสัตว์ ลูกหมี

ผล

noun

กุมาร

noun

ดูตัวอย่างเพิ่มเติม

First, he directed them to cultivate and care for their earthly home and eventually fill it with their offspring.
ข้อ แรก พระองค์ บอก เขา ให้ ดู แล รักษา สวน และ ใน ที่ สุด มี ลูก หลาน จน เต็ม แผ่นดิน โลก.
How, then, could she produce a perfect offspring, the Son of God?
ฉะนั้น จะ เป็น ไป ได้ อย่าง ไร ที่ เธอ จะ ให้ กําเนิด บุตร ที่ สมบูรณ์ ซึ่ง เป็น พระ บุตร ของ พระเจ้า?
Says the account: “Then the king said to Ashpenaz his chief court official to bring some of the sons of Israel and of the royal offspring and of the nobles, children in whom there was no defect at all, but good in appearance and having insight into all wisdom and being acquainted with knowledge, and having discernment of what is known, in whom also there was ability to stand in the palace of the king.”—Daniel 1:3, 4.
ม.] ที่ ไม่ พิการ เลย แต่ มี รูป งาม และ มี สติ ปัญญา เฉลียวฉลาด, สม จะ เรียน รู้ และ เข้าใจ ใน วิชา ต่าง ๆ ได้, เช่น อย่าง คน ที่ สามารถ รับ ราชการ ใน วัง หลวง ได้.”—ดานิเอล 1:3, 4.
Also, he paid the penalty for sin inherited by Adam’s offspring, opening the way to everlasting life. —12/15, pages 22-23.
นอก จาก นั้น พระองค์ ได้ ชําระ โทษ สําหรับ บาป ที่ ลูก หลาน ของ อาดาม ได้ รับ ตก ทอด มา ซึ่ง เปิด ทาง ให้ พวก เขา ได้ รับ ชีวิต นิรันดร์.—15/12 หน้า 22-23
Offspring of vipers,” Jesus exclaims, “how can you speak good things, when you are wicked?
พระ เยซู ทรง อุทาน ว่า “โอ ชาติ งู ร้าย เจ้า ที่ เป็น คน ชั่ว แล้ว จะ พูด ความ ดี อย่าง ไร ได้?
(Genesis 3:16-19, 23, 24) This interplay of flawed heredity and harsh environment affected the first humans and their future offspring as well.
(เยเนซิศ 3:16-19, 23, 24) ทั้ง พันธุกรรม ที่ มี รอย ตําหนิ และ สิ่ง แวด ล้อม ที่ ไม่ ดี ต่าง ก็ ส่ง ผล กระทบ ต่อ มนุษย์ คู่ แรก ตลอด จน ลูก หลาน ของ เขา ด้วย.
In like manner, Jehovah God and his beloved Son have purchased Adam’s offspring and canceled their debt of sin on the basis of Jesus’ shed blood.
ใน ทํานอง เดียว กัน พระ ยะโฮวา พระเจ้า และ พระ บุตร ที่ รัก ของ พระองค์ ได้ ซื้อ ลูก หลาน ของ อาดาม คืน มา และ ยก หนี้ บาป ของ พวก เขา โดย อาศัย พระ โลหิต ที่ หลั่ง ออก ของ พระ เยซู.
(Romans 5:12) The first human couple reaped the consequences of their own harmful course, but their offspring were affected too.
(โรม 5:12, ล. ม.) มนุษย์ คู่ แรก เก็บ เกี่ยว ผล จาก แนว ทาง ที่ ยัง ความ เสียหาย ของ ตน เอง แต่ ลูก หลาน ของ เขา ก็ ได้ รับ ผล กระทบ ด้วย เช่น กัน.
However, the Bible does not say that any potential offspring of Jesus formed part of the ransom.
อย่าง ไร ก็ ตาม คัมภีร์ ไบเบิล ไม่ ได้ กล่าว ว่า ลูก หลาน ที่ พระ เยซู จะ ให้ กําเนิด ประกอบ กัน เป็น ส่วน หนึ่ง ของ ค่า ไถ่.
Could not God simply have decreed that although Adam and Eve must die for their rebellion, all of their offspring who would obey God could live forever?
เป็น ไป ได้ ไหม ที่ พระเจ้า เพียง แค่ มี ประกาศิต ว่า แม้ อาดาม และ ฮาวา ต้อง ตาย เพราะ การ กบฏ ของ ตน ลูก หลาน ทั้ง หมด ของ เขา ที่ เชื่อ ฟัง พระเจ้า สามารถ มี ชีวิต นิรันดร์ ได้?
4 Is Jehovah, though, an unfeeling Creator who simply instituted a biological process whereby men and women could produce offspring?
4 แต่ พระ ยะโฮวา เป็น พระ ผู้ สร้าง ที่ ไร้ ความ รู้สึก ผู้ ซึ่ง เพียง แต่ ตั้ง กระบวนการ ทาง ชีววิทยา ที่ ทํา ให้ ชาย และ หญิง สามารถ ให้ กําเนิด บุตร แค่ นั้น ไหม?
Only a perfect human life could pay the ransom price to redeem Adam’s offspring from the enslavement into which their first father had sold them.
เฉพาะ ชีวิต มนุษย์ สมบูรณ์ เท่า นั้น สามารถ ชําระ ค่า ไถ่ เพื่อ ปลด เปลื้อง ลูก หลาน ของ อาดาม ให้ พ้น จาก การ เป็น ทาส ซึ่ง บิดา แรก ได้ ขาย พวก เขา เข้า สู่ สภาพ เช่น นั้น.
Each successive generation was born, grew up, produced offspring, and then died off.
คน รุ่น แล้ว รุ่น เล่า เกิด มา, โต ขึ้น, มี ลูก มี หลาน, แล้ว ก็ ตาย ไป.
Do you actually believe that Jesus was the Son of God, the literal offspring of the Father?
ท่านเชื่อจริงหรือว่าพระเยซูทรงเป็นพระบุตรของพระผู้เป็นเจ้า ทายาทองค์จริงของพระบิดา
Had there been a “throwing down of seed,” or a conceiving of human offspring, before Adam and Eve sinned?
ได้ มี “การ หว่าน เมล็ด” หรือ การ ให้ กําเนิด ลูก หลาน มนุษย์ ก่อน ที่ อาดาม และ ฮาวา จะ ทํา บาป ไหม?
Hence, The Amplified Old Testament describes Cain’s wife simply as “one of Adam’s offspring.”
เพราะ เหตุ นี้ คัมภีร์ ไบเบิล ฉบับ แอมพลิไฟด์ โอลด์ เทสทาเมนต์ จึง พูด ถึง ภรรยา ของ คายิน ว่า เป็น “ลูก หลาน คน หนึ่ง ของ อาดาม.”
She did more, though, than just ask God to fulfill her desperate urge to bear offspring.
ฮันนา ไม่ เพียง ทูล อ้อน วอน ขอ ให้ มี บุตร.
(Revelation 18:24) Showing that this bloodguilt incurred by false religion goes back even beyond the founding of Babylon, Jesus condemned the religious leaders of Judaism, which had attached itself to Babylon the Great, when he said: “Serpents, offspring of vipers, how are you to flee from the judgment of Gehenna? . . .
(วิวรณ์ 18:24) ความ ผิด ฐาน ทํา ให้ โลหิต ตก เช่น นี้ เกิด ขึ้น โดย ศาสนา เท็จ ย้อน หลัง ไป นาน ก่อน มี เมือง บาบูโลน เสีย อีก. พระ เยซู ได้ ประณาม พวก ผู้ นํา ลัทธิ ยูดา ซึ่ง นํา ตัว เข้า ไป พัวพัน กับ บาบูโลน ใหญ่ เมื่อ พระองค์ ได้ ตรัส ว่า “โอ พวก ชาติ งู ร้าย เจ้า จะ พ้น จาก การ ปรับ โทษ ใน นรก [กิเฮนนา] อย่าง ไร ได้? . . .
(Genesis 22:18) The primary reason God formed Abraham’s offspring into a nation was to produce the Messiah, who would give his life for all mankind.
(เยเนซิศ 22:18) เหตุ ผล หลัก ที่ พระเจ้า ทํา ให้ ลูก หลาน ของ อับราฮาม เป็น ชาติ หนึ่ง คือ เพื่อ ให้ พระ มาซีฮา มา กําเนิด ซึ่ง ใน ที่ สุด พระ มาซีฮา จะ สละ ชีวิต เพื่อ มนุษย์ ทุก คน.
Similarly, those serving him and their offspring will keep standing.
ใน ทํานอง เดียว กัน ผู้ ที่ รับใช้ พระองค์ กับ ลูก หลาน ของ เขา จะ ดํารง อยู่ เรื่อย ไป.
Abraham’s offspring received the promise of a precious inheritance
ลูก หลาน ของ อับราฮาม ได้ รับ ตาม คํา สัญญา เกี่ยว กับ มรดก อัน ล้ํา ค่า
They came down to earth, materialized bodies, and cohabited with beautiful women, producing offspring that were half human, half demon —the Nephilim.
พวก มัน ลง มา ยัง แผ่นดิน โลก จําแลง กาย เป็น มนุษย์ และ อยู่ กิน กับ หญิง สาว รูป งาม ให้ กําเนิด พวก เนฟิลิม ซึ่ง เป็น ลูก พันธุ์ ผสม ครึ่ง คน ครึ่ง วิญญาณ ชั่ว.
When the first man, Adam, deliberately rebelled against God, he subjected all his offspring to sin, suffering, and death.
เมื่อ อาดาม มนุษย์ คน แรก จงใจ กบฏ ต่อ พระเจ้า เขา ทํา ให้ ลูก หลาน ของ เขา ทุก คน ต้อง กลาย เป็น ทาส บาป ความ ทุกข์ และ ความ ตาย.
Jesus said to the self-righteous, yet unholy, Pharisees: “Offspring of vipers, how can you speak good things, when you are wicked?
พระ เยซู ตรัส กับ พวก ฟาริซาย ที่ ยก ตัว เอง ชอบธรรม แต่ กลับ เป็น คน ไม่ บริสุทธิ์ ว่า “โอ ชาติ งู ร้าย, เจ้า ที่ เป็น คน ชั่ว แล้ว จะ พูด ความ ดี อย่าง ไร ได้?
Their son Obed was viewed as Naomi’s offspring and the legal heir of Elimelech. —Ruth 2:19, 20; 4:1, 6, 9, 13-16.
ถือ กัน ว่า โอเบด บุตร ชาย ของ ทั้ง สอง เป็น บุตร ของ นาอะมี และ เป็น ทายาท ตาม กฎหมาย ของ อะลีเมะเล็ค.—ประวัตินางรูธ 2:19, 20; 4:1, 6, 9, 13-16.

มาเรียนกันเถอะ ภาษาอังกฤษ

ตอนนี้เมื่อคุณรู้ความหมายของ offspring ใน ภาษาอังกฤษ มากขึ้นแล้ว คุณจะได้เรียนรู้วิธีใช้คำเหล่านี้ผ่านตัวอย่างที่เลือกไว้และวิธี อ่านแล้วอย่าลืมเรียนรู้คำที่เกี่ยวข้องที่เราแนะนำ เว็บไซต์ของเรามีการปรับปรุงคำศัพท์ใหม่ๆ และตัวอย่างใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา เพื่อให้คุณสามารถค้นหาความหมายของคำอื่นๆ ที่คุณไม่ทราบใน ภาษาอังกฤษ

คำที่เกี่ยวข้องของ offspring

อัปเดตคำของ ภาษาอังกฤษ

คุณรู้จัก ภาษาอังกฤษ ไหม

ภาษาอังกฤษมาจากชนเผ่าดั้งเดิมที่อพยพไปยังอังกฤษและมีวิวัฒนาการมาเป็นเวลากว่า 1,400 ปี ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่พูดมากเป็นอันดับสามของโลก รองจากจีนและสเปน เป็นภาษาที่สองที่มีการเรียนรู้มากที่สุด และภาษาราชการของเกือบ 60 ประเทศอธิปไตย ภาษานี้มีจำนวนผู้พูดเป็นภาษาที่สองและภาษาต่างประเทศมากกว่าเจ้าของภาษา ภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการร่วมของสหประชาชาติ สหภาพยุโรป และภาษาต่างประเทศอื่น ๆ อีกมากมาย และองค์กรระดับภูมิภาค ปัจจุบัน ผู้พูดภาษาอังกฤษทั่วโลกสามารถสื่อสารกันได้อย่างคล่องตัว