pronome ใน ภาษาอิตาลี หมายถึงอะไร

ความหมายของคำว่า pronome ใน ภาษาอิตาลี คืออะไร บทความอธิบายความหมายแบบเต็ม การออกเสียงพร้อมกับตัวอย่างสองภาษาและคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีใช้ pronome ใน ภาษาอิตาลี

คำว่า pronome ใน ภาษาอิตาลี หมายถึง คําสรรพนาม, สรรพนาม หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม โปรดดูรายละเอียดด้านล่าง

ฟังการออกเสียง

ความหมายของคำว่า pronome

คําสรรพนาม

noun (parte del discorso che si usa per sostituire una parte del testo precedente o successivo)

Usando il pronome “mi”, Davide ci insegna che Dio si interessa individualmente dei suoi servitori.
การที่ดาวิดใช้คําสรรพนาม “ข้าพระองค์” ยังสอนเราว่าพระเจ้าทรงสนใจผู้รับใช้ของพระองค์ทุกคนเป็นส่วนตัว.

สรรพนาม

noun

Qui il pronome non può riferirsi a Gesù, l’antecedente più vicino.
ในที่นี้ เป็นไปไม่ได้ที่สรรพนามจะเกี่ยวโยงกับคํานามที่อยู่ใกล้ที่สุดก่อนหน้านั้น ซึ่งได้แก่พระเยซู.

ดูตัวอย่างเพิ่มเติม

Notate pure che usò il pronome “noi”.
สังเกต ด้วย ว่า ท่าน ใช้ คํา ว่า “เรา ทั้ง หลาย.”
Qui il pronome non può riferirsi a Gesù, l’antecedente più vicino.
ใน ที่ นี้ เป็น ไป ไม่ ได้ ที่ สรรพนาม จะ เกี่ยว โยง กับ คํา นาม ที่ อยู่ ใกล้ ที่ สุด ก่อน หน้า นั้น ซึ่ง ได้ แก่ พระ เยซู.
Sì, in modo che possiamo imparare i loro nomi, se hanno dei nomi, e quindi introdurre i pronomi piu'avanti.
ใช่เพื่อให้เราสามารถเรียนรู้ชื่อ ของมันหากมันมีชื่อ แล้วแนะนําสรรพนามในภายหลัง
In maniera analoga, nel testo ebraico sono usati pronomi femminili per indicare la sapienza personificata.
สรรพนาม เพศ หญิง ใน ภาษา ฮีบรู ก็ ถูก นํา ไป ใช้ กับ สติ ปัญญา เช่น กัน.
Winer scrive: “A volte il pronome [hoùtos] non si riferisce al sostantivo più vicino, ma a uno che, seppur più lontano, era mentalmente il più vicino e presente al pensiero dello scrittore, in quanto costituiva l’argomento principale”. — A Grammar of the Idiom of the New Testament, 7a edizione, 1897.
ไวเนอร์ เขียน ดัง นี้: “คํา สรรพนาม [โฮʹโทส] บาง ครั้ง ไม่ ได้ พาด พิง ถึง คํา นาม ที่ อยู่ ใกล้ ที่ สุด ใน ด้าน ตําแหน่ง แต่ พาด พิง ถึง คํา นาม ที่ อยู่ ห่าง กว่า ซึ่ง เนื่อง จาก เป็น เรื่อง สําคัญ จึง เป็น เรื่อง อยู่ ใกล้ ที่ สุด ใน ด้าน จิตใจ เป็น เรื่อง ที่ ผู้ เขียน คิด ถึง ก่อน.”—ไวยากรณ์ ของ สํานวน ใน พระ คัมภีร์ ภาค พันธสัญญา ใหม่ (ภาษา อังกฤษ), พิมพ์ ครั้ง ที่ เจ็ด, 1897.
Il pronome “voi” si riferisce ai farisei, a cui si stava rivolgendo Gesù.
คํา ว่า “ท่าน ทั้ง หลาย” ใน ข้อ นี้ หมาย ถึง พวก ฟาริซาย ที่ พระ เยซู กําลัง พูด ด้วย ใน ตอน นั้น.
Lo studioso tedesco Hans Bruns dichiara: “Il [pronome] ‘le’ non si riferisce alle nazioni (il greco fa una chiara distinzione), ma alle persone delle nazioni”.
ฮันส์ บรูนส์ ผู้ คง แก่ เรียน ชาว เยอรมัน กล่าว ดัง นี้: “[คํา] ‘เขา’ ไม่ พาด พิง ถึง ชาติ (ภาษา กรีก แยก ไว้ ชัด) แต่ หมาย ถึง คน ใน ชาติ.”
Benché personificato come “soccorritore”, lo spirito santo non è una persona, tant’è vero che nel testo greco alla parola spirito corrisponde il pronome neutro (‘esso’).
แม้ พระ เยซู ตรัส เรื่อง “ผู้ ช่วย” เสมือน เป็น บุคคล กระนั้น พระ วิญญาณ บริสุทธิ์ ไม่ ใช่ บุคคล เพราะ คํา ภาษา กรีก ใช้ สรรพนาม ไม่ มี เพศ ว่า “มัน” กับ คํา วิญญาณ.
* Che cosa ci fa capire l’uso frequente che l’uomo fa del pronome mio sulle sue preoccupazioni?
* การที่ชายคนนี้ใช้ ข้า และ ของข้า บ่อยๆ สอนอะไรเราเกี่ยวกับความกังวลของเขา
Essa usa un linguaggio semplice e attuale, è il più possibile uniforme nella traduzione, rende accuratamente l’azione o aspetto dei verbi ebraici e greci, e distingue, in inglese, fra plurale e singolare nell’uso del pronome you e nella forma imperativa del verbo quando il contesto non è sufficiente a determinarlo.
ฉบับ แปล นี้ ใช้ ภาษา ทัน สมัย เรียบ ง่าย, มี การ แปล อย่าง เสมอ ต้น เสมอ ปลาย เท่า ที่ เป็น ไป ได้, ถ่ายทอด อย่าง ถูก ต้อง ใน เรื่อง การ กระทํา หรือ สภาพ ที่ บอก ไว้ ด้วย คํา กริยา ใน ภาษา ฮีบรู และ ภาษา กรีก, และ แยกแยะ ระหว่าง พหูพจน์ กับ เอกพจน์ ใน การ ใช้ คํา สรรพนาม “ท่าน” หรือ “เจ้า” และ เมื่อ มี การ ใช้ คํา กริยา ใน รูป คํา สั่ง ซึ่ง บริบท ไม่ ได้ แสดง ให้ เห็น.
L’uso del pronome singolare ebraico “tuo” indica che qualsiasi israelita ubbidiente avrebbe avuto questa esperienza.
การ ที่ ใช้ สรรพนาม เป็น เอกพจน์ ใน ภาษา ฮีบรู ที่ ได้ รับ การ แปล ว่า “ของ เจ้า” บ่ง ชี้ ว่า ชาว ยิศราเอล ที่ เชื่อ ฟัง จะ ประสบ พระ พร นั้น เป็น ส่วน ตัว.
No, e'solo che... sono stanco di usare pronomi.
ไม่หรอก ผมแค่เบื่อที่จะใช้สรรพนาม
6:8a: Perché qui si usa il pronome plurale “noi”?
6:8 ก—สรรพนาม “เรา” ที่ ใช้ ใน ที่ นี้ หมาย ถึง ใคร?
(Zaccaria 8:23) Con il pronome “voi” si intendono i giudei spirituali, vale a dire l’odierno rimanente dei cristiani unti.
(ซะคาระยา 8:23) คน เหล่า นี้ ที่ “สิบ คน” พูด ด้วย ได้ แก่ คน ชาติ ยูดาย ฝ่าย วิญญาณ ชน ที่ เหลือ แห่ง คริสเตียน ผู้ ถูก เจิม ใน ปัจจุบัน.
(Esodo 3:15; Geremia 32:35) In passi come Matteo 6:9 e Giovanni 17:6, 26, una versione albanese molto diffusa rende l’espressione greca “il tuo nome” (cioè il nome di Dio) col semplice pronome di seconda persona singolare, come se in quei passi non si accennasse affatto a un nome.
(เอ็กโซโด 3:15; ยิระมะยา 32:35) ใน ข้อ ความ อย่าง เช่น ที่ มัดธาย 6:9 และ โยฮัน 17:6, 26 ฉบับ แปล อัลบาเนียน ซึ่ง มี การ จําหน่าย จ่าย แจก อย่าง กว้างขวาง ได้ แปล วลี ภาษา กรีก ที่ มี ความหมาย ว่า “พระ นาม ของ พระองค์” (กล่าว คือ พระ นาม ของ พระเจ้า) โดย แปล แต่ เพียง ว่า “พระองค์” ราว กับ ว่า ใน ข้อ ดัง กล่าว ไม่ ได้ อ้าง ถึง พระ นาม เลย.
Chi le ha scritte cambia pronome da plurale a singolare.
คนเขียนเปลี่ยนสรรพนาม จากพหูพจน์เป็นเอกพจน์
In 1 Giovanni 2:22 l’apostolo usò questo pronome in modo analogo.
ที่ 1 โยฮัน 2:22 อัครสาวก โยฮัน ใช้ คํา ฮูโทส ใน วิธี คล้าย ๆ กัน.
Dato che in riferimento all’“uomo che è un giudeo” viene usato il pronome “voi”, si tratta di un “uomo” composito.
“คน ชาติ ยูดาย” ใน ที่ นี้ เป็น ชน กลุ่ม หนึ่ง.
Usando il pronome “mi”, Davide ci insegna che Dio si interessa individualmente dei suoi servitori.
การ ที่ ดาวิด ใช้ คํา สรรพนาม “ข้า พระองค์” ยัง สอน เรา ว่า พระเจ้า ทรง สนใจ ผู้ รับใช้ ของ พระองค์ ทุก คน เป็น ส่วน ตัว.
Informazioni utili Significato di nomi (Genesi 3:17, “Adamo”; Esodo 15:23, “Mara”); specifiche riguardanti pesi e misure (Genesi 6:15, “cubiti”); esplicitazione di pronomi (Genesi 49:25, “lui”); spiegazioni e rimandi alle Appendici e al Glossario (Genesi 37:35, “Tomba”; Matteo 5:22, “Geenna”).
บอก ความ หมาย และ ข้อมูล ภูมิหลัง ข้อ ความ ใน เชิงอรรถ แบบ นี้ บอก ความ หมาย ของ ชื่อ ต่าง ๆ (ปฐมกาล 3:17 “อาดัม”; อพยพ 15:23 “มาราห์”) หรือ บอก ราย ละเอียด เกี่ยว กับ น้ําหนัก หรือ ขนาด (ปฐมกาล 6:15 “ศอก”) หรือ ระบุ ว่า สรรพนาม ใน ข้อ นั้น หมาย ถึง ใคร (ปฐมกาล 49:25 “เขา”) หรือ ชี้ ไป ที่ ข้อมูล ที่ เป็น ประโยชน์ ใน ภาค ผนวก และ ส่วน อธิบาย ศัพท์—ปฐมกาล 2:4 ดู เชิงอรรถ ของ คํา ว่า “พระ ยะโฮวา”; มัทธิว 5:22 ดู เชิงอรรถ ของ คํา ว่า “เกเฮนนา”
Qui sia “quei” che “tale” traducono forme del termine greco ekèinos, un pronome dimostrativo che indica qualcosa di distante nel tempo.
ใน ที่ นี้ คํา “เหล่า นั้น” และ “นั้น” ทั้ง สอง คํา ต่าง เป็น รูป แบบ ต่าง ๆ ของ คํา ภาษา กรีก เอเคʹโนส ซึ่ง เป็น คํา สรรพนาม ชี้ เฉพาะ ที่ บ่ง ถึง บาง สิ่ง บาง อย่าง ที่ อยู่ ใน เวลา ห่าง ไกล.
145:18) Notate che Paolo usò il pronome “noi”, includendosi tra coloro che avevano bisogno di ‘cercare e andare come a tastoni’ per trovare Dio.
145:18) สังเกต ว่า เปาโล ใช้ คํา “เรา” โดย วิธี นี้ จึง รวม เอา ตัว ท่าน เอง อยู่ ใน บรรดา คน ที่ ต้องการ “แสวง หา” และ “พากเพียร เสาะ หา” พระเจ้า.
Hanno il pronome “Egli”, non il sostantivo ‘Dio’.
ปรากฏ ว่า เขา ใช้ คํา “พระองค์” แทน คํา “พระเจ้า” โดย ตลอด.
Il pronome plurale “noi” indica che con Geova c’è qualcun altro.
ส่วน “เรา” คํา ที่ สอง เป็น สรรพนาม พหูพจน์ ที่ บ่ง ชี้ ว่า มี อีก บุคคล หนึ่ง อยู่ กับ พระ ยะโฮวา.
L'inglese non ha un pronome neutro singolare.
ก็ภาษาอังกฤษไม่มีคําแทนเพศที่เป็นกลางๆ หนิ

มาเรียนกันเถอะ ภาษาอิตาลี

ตอนนี้เมื่อคุณรู้ความหมายของ pronome ใน ภาษาอิตาลี มากขึ้นแล้ว คุณจะได้เรียนรู้วิธีใช้คำเหล่านี้ผ่านตัวอย่างที่เลือกไว้และวิธี อ่านแล้วอย่าลืมเรียนรู้คำที่เกี่ยวข้องที่เราแนะนำ เว็บไซต์ของเรามีการปรับปรุงคำศัพท์ใหม่ๆ และตัวอย่างใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา เพื่อให้คุณสามารถค้นหาความหมายของคำอื่นๆ ที่คุณไม่ทราบใน ภาษาอิตาลี

อัปเดตคำของ ภาษาอิตาลี

คุณรู้จัก ภาษาอิตาลี ไหม

ภาษาอิตาลี (italiano) เป็นภาษาโรมานซ์และมีผู้คนพูดประมาณ 70 ล้านคน ซึ่งส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในอิตาลี ภาษาอิตาลีใช้อักษรละติน ตัวอักษร J, K, W, X และ Y ไม่มีอยู่ในตัวอักษรอิตาลีมาตรฐาน แต่ยังคงปรากฏอยู่ในคำยืมจากภาษาอิตาลี ภาษาอิตาลีเป็นภาษาที่พูดกันอย่างแพร่หลายเป็นอันดับสองในสหภาพยุโรป โดยมีผู้พูด 67 ล้านคน (15% ของประชากรในสหภาพยุโรป) และพูดเป็นภาษาที่สองโดยพลเมืองสหภาพยุโรป 13.4 ล้านคน (3%) ภาษาอิตาลีเป็นภาษาการทำงานหลักของสันตะสำนัก ซึ่งทำหน้าที่เป็นภาษากลางในลำดับชั้นของนิกายโรมันคาธอลิก เหตุการณ์สำคัญที่ช่วยเผยแพร่อิตาลีคือการพิชิตและยึดครองอิตาลีของนโปเลียนในต้นศตวรรษที่ 19 ชัยชนะครั้งนี้กระตุ้นการรวมประเทศอิตาลีหลายทศวรรษต่อมาและผลักดันภาษาของภาษาอิตาลี ภาษาอิตาลีกลายเป็นภาษาที่ใช้ไม่เฉพาะในหมู่เลขานุการ ขุนนาง และราชสำนักของอิตาลีเท่านั้น แต่ยังรวมถึงชนชั้นนายทุนด้วย