spurious ใน ภาษาอังกฤษ หมายถึงอะไร

ความหมายของคำว่า spurious ใน ภาษาอังกฤษ คืออะไร บทความอธิบายความหมายแบบเต็ม การออกเสียงพร้อมกับตัวอย่างสองภาษาและคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีใช้ spurious ใน ภาษาอังกฤษ

คำว่า spurious ใน ภาษาอังกฤษ หมายถึง ปลอม, เท็จเทียม, เท็จ หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม โปรดดูรายละเอียดด้านล่าง

ฟังการออกเสียง

ความหมายของคำว่า spurious

ปลอม

verb

เท็จเทียม

adjective

เท็จ

adjective

what you can see is, over on this side, the spurious false negatives,
สิ่งที่คุณเห็นก็คือ ตรงด้านนี้ ผลด้านลบเท็จที่หลอกลวง

ดูตัวอย่างเพิ่มเติม

The spurious addition found in some translations of the Bible at 1 John 5:7 reads “in heaven, the Father, the Word, and the Holy Ghost: and these three are one.”
ส่วน แปลกปลอม เพิ่ม เติม นี้ พบ ได้ ใน คัมภีร์ ไบเบิล บาง ฉบับ แปล ที่ 1 โยฮัน 5:7 ที่ อ่าน ว่า “ใน สวรรค์, พระ บิดา, พระ วาทะ, และ พระ จิตต์ บริสุทธิ์: และ ทั้ง สาม รวม เป็น หนึ่ง เดียว.”
He carefully omitted the spurious part of 1 John 5:7.
เขา ตัด ทอน ส่วน ปลอม ของ 1 โยฮัน 5:7 ออก อย่าง ระมัดระวัง.
It is believed by experts on counterfeiting that realistically the number of spurious dollars in circulation outside the United States could be as high as ten billion dollars.
พวก ผู้ เชี่ยวชาญ เกี่ยว กับ การ ปลอม แปลง เชื่อ ว่า ตาม จริง แล้ว จํานวน ของ ธนบัตร ปลอม ที่ หมุน เวียน นอก สหรัฐ อาจ สูง ถึง หนึ่ง หมื่น ล้าน ดอลลาร์.
Internal evidence confirms the clear division that was made between the inspired Christian writings and works that were spurious or uninspired.
หลักฐาน ภาย ใน ยืน ยัน การ แบ่ง แยก ชัดเจน ระหว่าง พระ ธรรม คริสเตียน ที่ มี ขึ้น โดย การ ดล ใจ กับ งาน เขียน ปลอม หรือ ไม่ ได้ มี ขึ้น โดย การ ดล ใจ.
In the second century C.E., false gospels spread spurious accounts of Jesus’ life, and the Fathers frequently lent credence to them.
ใน ศตวรรษ ที่ สอง สากล ศักราช หนังสือ กิตติคุณ ปลอม ได้ แพร่ เรื่อง ราว ชีวิต ของ พระ เยซู ซึ่ง ไม่ ตรง กับ ความ เป็น จริง และ บรรดา นัก เขียน ของ คริสตจักร ต่าง ก็ ให้ การ ยอม รับ และ อ้าง ถึง กิตติคุณ นี้ บ่อย ๆ.
At the end of the second century, Irenaeus of Lyon wrote that those who had apostatized from Christianity had “an unspeakable number of apocryphal and spurious writings,” including gospels that “they themselves have forged, to bewilder the minds of foolish men.”
ปลาย ศตวรรษ ที่ สอง สากล ศักราช อีรีเนอุส แห่ง ลียง ได้ เขียน ว่า คน ที่ แยก ตัว ออก จาก ศาสนา คริสเตียน มี “ข้อ เขียน เท็จ นอก สารบบ พระ คัมภีร์ เก็บ ไว้ เป็น จํานวน มาก” รวม ทั้ง กิตติคุณ ที่ “พวก เขา แต่ง ขึ้น เอง เพื่อ ทํา ให้ คน ที่ โง่ เขลา สับสน.”
Jerome considered these words spurious and omitted them from his version.
เจโรม ถือ ว่า ข้อ ความ นี้ เป็น ของ ปลอม และ ตัด ข้อ ความ ดัง กล่าว จาก ฉบับ แปล ของ เขา.
According to this spurious account, Christ’s apostles were miraculously gathered to Mary, where they saw her heal the blind, the deaf, and the lame.
ตาม บันทึก ปลอม นี้ เหล่า อัครสาวก ของ พระ คริสต์ ถูก รวบ รวม อย่าง อัศจรรย์ มา ยัง มาเรีย ซึ่ง พวก เขา ได้ เห็น นาง รักษา คน ตา บอด, คน หู หนวก, และ คน ง่อย.
It moved them to reject any information that was spurious and to include only that which was factual.
พระ วิญญาณ นั้น กระตุ้น พวก เขา ให้ ปฏิเสธ ข้อมูล ใด ๆ ที่ ไม่ แท้ และ ให้ รวม เอา เฉพาะ แต่ สิ่ง ที่ เป็น จริง เท่า นั้น.
For instance, de Castro particularly noted that the Syriac Peshitta omitted from 1 John 5:7 the spurious addition, “in heaven, the Father, the Word, and the Holy Ghost: and these three are one.”
ตัว อย่าง เช่น เด คาสโตร กล่าว เจาะจง ถึง ข้อ ความ เพชิตตา ใน ภาษา ซีเรีย โบราณ ว่า ไม่ มี ข้อ ความ แปลกปลอม ที่ เพิ่ม เข้า มา ใน 1 โยฮัน 5:7 ซึ่ง กล่าว ว่า “ใน สวรรค์ พระ บิดา, พระ คํา, และ พระ จิตต์ บริสุทธิ์: และ ทั้ง สาม รวม เป็น หนึ่ง เดียว.”
Some Bibles include spurious references to fasting, but these additions do not appear in the oldest Greek manuscripts. —Matthew 17:21; Mark 9:29; Acts 10:30; 1 Corinthians 7:5, King James Version.
ที่ พระ ธรรม มัดธาย 17:21; มาระโก 9:29; กิจการ 10:30; 1 โครินท์ 7:5 ใน คัมภีร์ ไบเบิล บาง ฉบับ เช่น ฉบับ คิงเจมส์ พูด ถึง การ อด อาหาร ด้วย แต่ ส่วน เพิ่ม เติม เหล่า นี้ ไม่ ปรากฏ ใน ต้น ฉบับ ภาษา กรีก ที่ เก่า แก่ ที่ สุด.
Thus, they maintained the spurious reading in the Latin and decided to translate it and insert it into the Greek text so that the two columns would harmonize.
ด้วย เหตุ นี้ พวก เขา จึง รักษา วลี ปลอม นี้ ไว้ ใน ข้อ ความ ภาษา ลาติน และ ตัดสิน ใจ ที่ จะ แปล วลี นี้ และ แทรก ไว้ ใน ข้อ ความ ภาษา กรีก เพื่อ ว่า ข้อ ความ ทั้ง สอง คอลัมน์ จะ สอดคล้อง ตรง กัน.
“The spurious accusations against human rights lawyer Sirikan Charoensiri should be withdrawn immediately and unconditionally,” said Phil Lynch, Director, International Service for Human Rights. “Thailand has a clear duty to protect human rights defenders under international law and standards and so it is particularly concerning that these accusations may be in retaliation for her human rights advocacy since the military coup.”
“ข้อกล่าวหาเท็จต่อทนายความสิทธิมนุษยชน นางสาวศิริกาญจน์ เจริญศิริ ควรถูกถอนทันทีโดยปราศจากเงื่อนไข” นายฟิล ลินช์ (Phil Lynch) ผู้อํานวยการ ISHR กล่าว “ประเทศไทยมีหน้าที่ชัดเจนที่จะคุ้มครองนักปกป้องสิทธิมนุษยชนตามกฎหมายและมาตรฐานระหว่างประเทศ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องน่ากังวลอย่างยิ่งที่ข้อกล่าวหาเหล่านี้อาจเป็นการตอบโต้งานรณรงค์สิทธิมนุษยชนที่เธอดําเนินการมาตั้งแต่ภายหลังรัฐประหาร”
Also included were a topical index, explanations of difficult texts, a list of spurious passages, a Scripture index, a comparative chronology, and 12 maps.
นอก จาก นั้น ที่ มี รวม อยู่ ด้วย คือ ดัชนี หัวข้อ, คํา อธิบาย ข้อ ความ ยาก ๆ, รายการ ข้อ ความ แปลกปลอม, ดัชนี ข้อ พระ คัมภีร์, ตาราง เปรียบ เทียบ ลําดับ เวลา, และ แผนที่ 12 หน้า.
“It is now the universal opinion of critics, that the first eight of these professedly Ignatian letters are spurious.
“นัก วิพากษ์วิจารณ์ โดย ทั่ว ไป มี ความ เห็น ว่า แปด ฉบับ แรก ที่ มี การ อ้าง ว่า เป็น จดหมาย ของ อิกนาทิอุส นั้น เป็น ของ ปลอม.
One of these examples is the famous spurious text known as the comma Johanneum.
หนึ่ง ใน ตัว อย่าง เหล่า นี้ คือ ข้อ ความ แปลกปลอม ซึ่ง เป็น ที่ รู้ จัก กัน อย่าง กว้างขวาง ที่ เรียก ว่า คอมมา โยฮานเนอุม.
Moreover, during the Middle Ages, the Bible’s divinely inspired words had become overlaid with a tangled skein of medieval legends, paraphrased passages, and spurious interpolations.
ยิ่ง กว่า นั้น ระหว่าง ยุค กลาง ถ้อย คํา ของ คัมภีร์ ไบเบิล ที่ ได้ รับ การ ดล ใจ จาก พระเจ้า ได้ ถูก ปก คลุม ด้วย ตํานาน ยุค กลาง ที่ ยุ่งเหยิง, ตอน ต่าง ๆ ที่ ถูก ถอด ความ, และ การ สอด แทรก ที่ ปลอม แปลง.
Then as you go further down at the bottom, what you can see is, on this side, spurious false negatives, and over on this side, spurious false positives.
แล้วถ้าคุณมองลงไปที่ด้านล่าง สิ่งที่คุณเห็นก็คือ ตรงด้านนี้ ผลด้านลบเท็จที่หลอกลวง และตรงด้านนี้ ผลด้านบวกเท็จที่หลอกลวง
These terms are used to refer to spurious or uncanonical writings that attempt to imitate the Gospels, Acts, letters, and the revelations in the canonical books of the Christian Greek Scriptures.
มี การ ใช้ สอง คํา นี้ เพื่อ หมาย ถึง ข้อ เขียน แปลกปลอม หรือ ข้อ เขียน ที่ ไม่ อยู่ ใน สารบบ คัมภีร์ ไบเบิล ซึ่ง พยายาม จะ เลียน แบบ กิตติคุณ ทั้ง สี่, กิจการ, จดหมาย, และ วิวรณ์ ที่ อยู่ ใน สารบบ ของ พระ คัมภีร์ คริสเตียน ภาค ภาษา กรีก.
The report of the commission concluded that many young males were deceived into participating in the initial attacks on spurious religious grounds and under the belief that spells would protect them from bullets fired at their bodies.
รายงานของคณะกรรมการสรุปว่า วัยรุ่นจํานวนมากที่เข้ามาร่วมปฏิบัติการครั้งนี้ถูกชักจูงด้วยความเชื่ออย่างงมงาย และพิธีกรรมทางไสยศาสตร์ ว่า พวกตนจะไม่ได้รับอันตรายจากกระสุนปืน
Most modern translations, therefore, eliminate this spurious reference to God.
ด้วย เหตุ นี้ ฉบับ แปล สมัย ใหม่ ส่วน ใหญ่ จึง ตัด เอา การ อ้าง ถึง พระเจ้า อย่าง ไม่ ถูก ต้อง นี้ ออก ไป.

มาเรียนกันเถอะ ภาษาอังกฤษ

ตอนนี้เมื่อคุณรู้ความหมายของ spurious ใน ภาษาอังกฤษ มากขึ้นแล้ว คุณจะได้เรียนรู้วิธีใช้คำเหล่านี้ผ่านตัวอย่างที่เลือกไว้และวิธี อ่านแล้วอย่าลืมเรียนรู้คำที่เกี่ยวข้องที่เราแนะนำ เว็บไซต์ของเรามีการปรับปรุงคำศัพท์ใหม่ๆ และตัวอย่างใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา เพื่อให้คุณสามารถค้นหาความหมายของคำอื่นๆ ที่คุณไม่ทราบใน ภาษาอังกฤษ

คำที่เกี่ยวข้องของ spurious

อัปเดตคำของ ภาษาอังกฤษ

คุณรู้จัก ภาษาอังกฤษ ไหม

ภาษาอังกฤษมาจากชนเผ่าดั้งเดิมที่อพยพไปยังอังกฤษและมีวิวัฒนาการมาเป็นเวลากว่า 1,400 ปี ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่พูดมากเป็นอันดับสามของโลก รองจากจีนและสเปน เป็นภาษาที่สองที่มีการเรียนรู้มากที่สุด และภาษาราชการของเกือบ 60 ประเทศอธิปไตย ภาษานี้มีจำนวนผู้พูดเป็นภาษาที่สองและภาษาต่างประเทศมากกว่าเจ้าของภาษา ภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการร่วมของสหประชาชาติ สหภาพยุโรป และภาษาต่างประเทศอื่น ๆ อีกมากมาย และองค์กรระดับภูมิภาค ปัจจุบัน ผู้พูดภาษาอังกฤษทั่วโลกสามารถสื่อสารกันได้อย่างคล่องตัว