read ใน ภาษาอังกฤษ หมายถึงอะไร

ความหมายของคำว่า read ใน ภาษาอังกฤษ คืออะไร บทความอธิบายความหมายแบบเต็ม การออกเสียงพร้อมกับตัวอย่างสองภาษาและคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีใช้ read ใน ภาษาอังกฤษ

คำว่า read ใน ภาษาอังกฤษ หมายถึง อ่าน, อ่านออกเสียง, เรียน หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม โปรดดูรายละเอียดด้านล่าง

ฟังการออกเสียง

ความหมายของคำว่า read

อ่าน

verb (speak aloud words or other information that is written)

I often read comic books in my spare time at work.
ฉันอ่านหนังสือการ์ตูนตอนเวลาเหลือ ที่ทํางานบ่อยๆ

อ่านออกเสียง

verb (speak aloud words or other information that is written)

Invite a student to read aloud the following statement by Elder M.
เชื้อเชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียงคํากล่าวต่อไปนี้โดยเอ็ลเดอร์เอ็ม.

เรียน

verb

My son was always on me, trying to teach me to read.
ลูกชายข้าพยายามจะบังคับให้ข้าเรียนรู้ที่จะอ่านหนังสือเสมอ

ดูตัวอย่างเพิ่มเติม

But, as behavioral scientist Robert Plomin notes, researchers “have only identified a chromosomal region, not a gene for reading disability.”
แต่ ดัง ที่ โรเบิร์ต โพล มิน นัก พฤติกรรม ศาสตร์ ตั้ง ข้อ สังเกต นัก วิจัย “แค่ ระบุ บริเวณ โครโมโซม เท่า นั้น ไม่ ใช่ ระบุ ยีน ที่ ทํา ให้ ไร้ ความ สามารถ ใน การ อ่าน.”
He reads it, or it's his comfort zone.
เขาอ่านมันหรือมันเป็นเขตสบายของเขา
And wondered what he thought of and felt as he read them?
เค้าคิด และรู้สึกอะไรในขณะที่เค้าอ่านมัน?
Can you read this?
คุณอ่านสิ่งนี้ได้หรือไม่
If he's getting these readings on the web, his next inspiration could come from anywhere.
ถ้าเขาอ่านพวกมันจอกในเว็บ แรงบันดาลใจต่อไปของเขาอาจมาจากที่ไหนก็ได้
What is needed in order to make time for regular Bible reading?
ต้อง ทํา อย่าง ไร จึง จะ มี เวลา สําหรับ การ อ่าน คัมภีร์ ไบเบิล เป็น ประจํา?
To help students understand the process of becoming perfect, invite a student to read aloud the following statement by President Russell M.
เพื่อช่วยให้นักเรียนเข้าใจขั้นตอนของการเป็นคนดีพร้อม เชื้อเชิญให้นักเรียนคนหนึ่งอ่านคํากล่าวต่อไปนี้ของเอ็ลเดอร์รัสเซลล์ เอ็ม.
No, but I've read about'em.
ไม่ แต่ฉันศึกษาเกี่ยวกับพวกเขามาบ้าง
Love for Jehovah is the purest motive we can have for reading his Word.
ความ รัก ที่ เรา มี ต่อ พระ ยะโฮวา เป็น แรง กระตุ้น ที่ ใส สะอาด ที่ สุด ใน การ อ่าน พระ คํา ของ พระองค์.
I am 44, and I am thrilled when I read these accounts.
ดิฉัน อายุ 44 ปี และ ดิฉัน รู้สึก ตื่นเต้น เมื่อ อ่าน เรื่อง ราว เหล่า นี้.
Such reading opens up our minds and hearts to Jehovah’s thoughts and purposes, and a clear understanding of these gives meaning to our lives.
การ อ่าน พระ คํา นั้น ทํา ให้ จิตใจ และ หัวใจ เรา เปิด รับ ความ คิด และ พระ ประสงค์ ของ พระ ยะโฮวา และ การ เข้าใจ ชัด แจ้ง ใน สิ่ง เหล่า นี้ ทํา ให้ ชีวิต เรา มี ความ หมาย.
5 We have read what Paul “received from the Lord” as to the Memorial.
5 เรา ได้ อ่าน เรื่อง ที่ เปาโล “ได้ รับ จาก องค์ พระ ผู้ เป็น เจ้า” เกี่ยว กับ พิธี อนุสรณ์.
The Bible record reads: “Now Miriam and Aaron began to speak against Moses on account of the Cushite wife whom he had taken . . .
บันทึก ใน คัมภีร์ ไบเบิล บอก ดัง นี้: “มิระยาม กับ อาโรน ได้ พูด ติ โมเซ, เพราะ หญิง ชาว เมือง คูศ ภรรยา ของ โมเซ, . . .
If selected, Amarok will read all subfolders
หากเลือกตัวเลือกนี้ Amarok จะอ่านโฟลเดอร์ย่อยทั้งหมด
Reading goes hand in hand with recognition.
การ อ่าน สัมพันธ์ กัน อย่าง ใกล้ ชิด กับ การ รู้ จัก คํา ที่ อ่าน.
When reading scriptures, make it a habit to emphasize the words that directly support your reason for referring to those texts.
เมื่อ อ่าน ข้อ คัมภีร์ จง ทํา ให้ เป็น นิสัย ที่ จะ เน้น คํา ต่าง ๆ ซึ่ง สนับสนุน การ หา เหตุ ผล ของ คุณ โดย ตรง.
Raúl let him read the Portuguese-language page in the booklet.
ราอูล ให้ ชาย คน นี้ อ่าน หนังสือ เล่ม เล็ก นี้ ใน หน้า ที่ เป็น ภาษา โปรตุเกส.
Then the disciple James read a passage of Scripture that helped all in attendance to discern Jehovah’s will in the matter. —Acts 15:4-17.
จาก นั้น สาวก ยาโกโบ อ่าน ข้อ ความ ตอน หนึ่ง จาก พระ คัมภีร์ ที่ ช่วย ให้ ที่ ประชุม ทั้ง สิ้น สังเกต เข้าใจ พระทัย ประสงค์ ของ พระ ยะโฮวา ใน เรื่อง นี้.—กิจการ 15:4-17.
My car window was rolled down a little, and I was reflecting on the text, which I had just read, when the gun’s muzzle appeared in the window.
ฉัน หมุน กระจก รถ ลง เล็ก น้อย และ นั่ง ทบทวน ข้อ คัมภีร์ ซึ่ง ฉัน เพิ่ง อ่าน ไป เมื่อ ปาก กระบอก ปืน โผล่ เข้า มา ทาง หน้าต่าง.
And just like every Sunday, we started reading the secrets out loud to each other."
และดั่งวันอาทิตย์อื่นๆ เราเริ่มอ่านความลับให้กันและกันฟัง"
Listeners were encouraged to read the Bible carefully, taking the time to visualize Scriptural accounts and to associate new points with things already learned.
ผู้ ฟัง ได้ รับ การ สนับสนุน ให้ อ่าน คัมภีร์ ไบเบิล อย่าง ละเอียด ถี่ถ้วน ใช้ เวลา นึก ภาพ เรื่อง ราว ใน พระ คัมภีร์ และ เชื่อม โยง จุด ใหม่ ๆ เข้า กับ สิ่ง ที่ ได้ เรียน รู้ แล้ว.
To answer that question and to help you find out what meaning the Lord’s Supper has for you, we invite you to read the following article.
เพื่อ ตอบ คํา ถาม นี้ และ เพื่อ ช่วย คุณ ให้ ทราบ ว่า อาหาร มื้อ เย็น ของ องค์ พระ ผู้ เป็น เจ้า มี ความหมาย เช่น ไร สําหรับ คุณ เรา ขอ เชิญ คุณ ให้ อ่าน บทความ ต่อ ไป.
With good reason each Israelite king was required to have a personal copy of the Scriptures and “read in it all the days of his life.”
ด้วย เหตุ ผล ที ดี กษัตริย์ ยิศราเอล แต่ ละ องค์ ได้ รับ การ เรียก ร้อง ให้ มี สําเนา พระ คัมภีร์ ส่วน ตัว และ “จะ ต้อง อ่าน พระ บัญญัติ นั้น มิ ได้ ขาด จน สิ้น ชีวิต.”
‘Was she reading my mind?’ you think to yourself.
คุณ คิด ใน ใจ ว่า ‘เพื่อน อ่าน ใจ ฉัน ได้ อย่าง ไร?’
I read everything you wrote, and I fell in love with your voice and with the way your mind works.
ผมอ่านงานคุณทุกชิ้น และตกหลุมรักเสียงของคุณ หลงรักวิธีคิดของคุณ

มาเรียนกันเถอะ ภาษาอังกฤษ

ตอนนี้เมื่อคุณรู้ความหมายของ read ใน ภาษาอังกฤษ มากขึ้นแล้ว คุณจะได้เรียนรู้วิธีใช้คำเหล่านี้ผ่านตัวอย่างที่เลือกไว้และวิธี อ่านแล้วอย่าลืมเรียนรู้คำที่เกี่ยวข้องที่เราแนะนำ เว็บไซต์ของเรามีการปรับปรุงคำศัพท์ใหม่ๆ และตัวอย่างใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา เพื่อให้คุณสามารถค้นหาความหมายของคำอื่นๆ ที่คุณไม่ทราบใน ภาษาอังกฤษ

คำที่เกี่ยวข้องของ read

อัปเดตคำของ ภาษาอังกฤษ

คุณรู้จัก ภาษาอังกฤษ ไหม

ภาษาอังกฤษมาจากชนเผ่าดั้งเดิมที่อพยพไปยังอังกฤษและมีวิวัฒนาการมาเป็นเวลากว่า 1,400 ปี ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่พูดมากเป็นอันดับสามของโลก รองจากจีนและสเปน เป็นภาษาที่สองที่มีการเรียนรู้มากที่สุด และภาษาราชการของเกือบ 60 ประเทศอธิปไตย ภาษานี้มีจำนวนผู้พูดเป็นภาษาที่สองและภาษาต่างประเทศมากกว่าเจ้าของภาษา ภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการร่วมของสหประชาชาติ สหภาพยุโรป และภาษาต่างประเทศอื่น ๆ อีกมากมาย และองค์กรระดับภูมิภาค ปัจจุบัน ผู้พูดภาษาอังกฤษทั่วโลกสามารถสื่อสารกันได้อย่างคล่องตัว